แหล่งข่าวของรัฐบาลแคนาดาระบุว่า รัฐบาลออตตาวา เชิญพล.ท.ปราโบโว ร่วมการประชุมจี7 ในสัปดาห์นี้ “ในฐานะแขก” แต่ผู้นำอินโดนีเซียกลับตอบรับคำเชิญพบปะกับปูติน ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในการเดินทางเยือนรัสเซียเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
แม้สำนักงานของ พล.ท.ปราโบโว ระบุว่าเป็นปัญหา “ตารางเวลาชนกัน” แต่ผู้สันทัดกรณีหลายคนกล่าวว่า การตัดสินใจข้างต้นส่งสัญญาณไปยังประเทศพันธมิตรตะวันตก เกี่ยวกับทิศทางเชิงยุทธศาสตร์ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการเอนเอียงไปทางรัสเซีย อีกทั้งการส่งสัญญาณทางภูมิรัฐศาสตร์ และการรับรู้ของประเทศอื่น ๆ ที่มีต่ออินโดนีเซีย ล้วนมีความสำคัญ ซึ่งอินโดนีเซียควรตระหนักว่า การตัดสินใจด้านนโยบายต่างประเทศ อาจส่งผลกระทบในระดับภูมิภาคและระดับโลก และอย่างน้อยที่สุด อินโดนีเซียควรส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมจี7” นายปีเตอร์ แพนดี นักวิจัยจากศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และระหว่างประเทศ (ซีเอสไอเอส) ในกรุงจาการ์ตา กล่าว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นระบุว่า การปฏิเสธเข้าร่วมซัมมิตจี7 เป็นการแสดงให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายของ พล.ท.ปราโบโว ที่ต้องการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการทหารระดับโลก แทนการพึ่งพาพันธมิตรชาติตะวันตกเพียงอย่างเดียว ในการรวมกลุ่มของประเทศพัฒนาแล้ว
ด้านนายเดดี ดีนาร์โต นักวิเคราะห์อินโดนีเซียชั้นนำ จากบริษัทที่ปรึกษา “โกลบอล เคาน์เซล” กล่าวว่า พล.ท.ปราโบโว น่าจะมองเห็นความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการป้องกันประเทศและเศรษฐกิจกับรัสเซีย และจากจุดยืนของรัฐบาลจาการ์ตา การประชุมสุดยอดจี7 อาจให้ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมน้อยกว่า
อนึ่ง รัฐบาลจาการ์ตาเดินอยู่บน “เส้นด้ายทางการทูต” ระหว่างคู่แข่งในภูมิภาคอย่างรัฐบาลปักกิ่ง และรัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งพล.ท.ปราโบโว พยายามกระจายความเสี่ยงในกลุ่มพันธมิตรของอินโดนีเซีย ไม่ว่าจะเป็น การลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคงกับออสเตรเลีย การเดินทางเยือนประเทศอ่าว การแวะพักที่สหราชอาณาจักร และการต้อนรับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส
ขณะเดียวกัน พล.ท.ปราโบโว ก็พัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับรัสเซีย โดยจัดการซ้อมรบร่วมทางทะเลครั้งแรกบนเกาะชวา เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว และให้การต้อนรับ พล.อ.เซอร์เก ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เดดีกล่าวว่า พล.ท.ปราโบโว คาดว่าจะรักษานโยบายต่างประเทศที่ไม่ฝักฝ่ายใด “ในอนาคต เราน่าจะได้เห็นรูปแบบการมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรม ซึ่งขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์น้อยลง และการที่อินโดนีเซียมองเห็นผลประโยชน์ที่ชัดเจนมากขึ้น” เดดี กล่าวทิ้งท้าย.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP