สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม จัดเวที “สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน ปี 2568” วาระ “พลังชุมชนท้องถิ่นอภิวัฒน์ระบบสุขภาวะประเทศ” สู่การเปลี่ยนแปลงระบบและโครงสร้างสุขภาพของประเทศ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ค.2568 โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 3,000 คน และเข้าร่วมออนไลน์กว่า 30,000 คนทั่วประเทศ

**สังคมไทยเผชิญโจทย์ใหม่ที่ซับซ้อน
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า งานสานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน รวมผู้คนจากทุกภาคส่วนที่เชื่อมั่นในพลังของชุมชนท้องถิ่น สสส. จัดเวทีนี้ต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 14 เริ่มต้นจากการฟื้นพลังของชุมชนหลังวิกฤตน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 พัฒนาเครือข่ายชุมชนทั่วประเทศที่สามารถ ‘ลุกขึ้นจัดการสุขภาวะของตนเอง’ ได้อย่างแท้จริง ปัจจุบันไทยเผชิญโจทย์ใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ ภาวะสูงวัย วิกฤตสุขภาพจิต ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กระทบวิถีชีวิตของผู้คนโดยตรง ซึ่งระบบสุขภาวะจำเป็นต้องเริ่มจากชุมชน และขับเคลื่อนด้วยพลังของชุมชน โดย สสส. ขับเคลื่อน สานพลัง สนับสนุนให้ภาคีในทุกระดับ ตั้งแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม หน่วยงานรัฐ จนถึงภาควิชาการ ได้มาแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และสร้างนวัตกรรมร่วมกัน โดยมีจุดร่วมเดียวกันคือ ‘การทำให้คนในพื้นที่สามารถจัดการสุขภาพได้ด้วยตนเอง ในการสร้างเสริมสุขภาวะองค์รวม’
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวต่อว่า แนวทางสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพ ผ่านกรอบคิดเชิงยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า “DOPA-Driven Strategy” ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 4 เรื่อง ได้แก่ D – Data Driven : การใช้ข้อมูลเป็นฐานในการวิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจ O – Outcome Driven : การมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ที่สามารถวัดได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว P – Partner Driven: การร่วมมือกับเพื่อนภาคีเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อเสริมพลังให้เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง และ A – AI Powered: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการตัดสินใจเชิงระบบ ด้วยยุทธศาสตร์ DOPA นี้ เราจะสามารถออกแบบและขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพที่เท่าทันต่อยุคสมัย เชื่อมโยงพลังของข้อมูล เทคโนโลยี และชุมชนท้องถิ่น เข้าด้วยกันอย่างมีพลัง เพื่อมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงที่วัดผลได้ และยั่งยืนได้จริง มุ่งหวังการประชุมครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการสานพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะชุมชนที่เข้มแข็ง และร่วมกันอภิวัฒน์ระบบสุขภาวะของประเทศต่อไป


** คำมั่นยุทธศาสตร์ “สุขภาวะโดยชุมชนท้องถิ่น
นางสาวธิดา ไกรนรา รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) กล่าวว่า ระบบสุขภาวะไทยจะเปลี่ยนแปลงได้ ต้องเริ่มจากการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเป็น ‘ผู้จัดการสุขภาพ’ อย่างแท้จริง สถ. มีบทบาทสำคัญในการออกแบบนโยบาย พัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้สามารถลุกขึ้นมาแก้ปัญหาสุขภาพของตนเองได้ การจัดการสุขภาวะในพื้นที่ ไม่สามารถใช้แนวคิดจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียวได้ ท้องถิ่นต้องเป็นผู้ออกแบบระบบบริการสาธารณะที่ตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ทั้งเรื่องผู้สูงอายุ การดูแลต่อเนื่อง การเข้าถึงบริการฉุกเฉิน ปัญหาโรคไม่ติดต่อ ต้องมีเครื่องมือและบุคลากรที่เพียงพอในการจัดการอย่างเป็นระบบ สถ. จะผลักดัน ยุทธศาสตร์ “สุขภาวะโดยชุมชนท้องถิ่น” ร่วมกับ สสส. ภาคีเครือข่าย และองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้ทุกท้องถิ่นสามารถออกแบบแผนงานด้านสุขภาพของตนเองได้ และขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของประเทศ


**ท้องถิ่นร่วมออกแบบ “ผังแม่บทชุมชน”
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ประธานกรรมการจัดทำธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565–2570 และประธานกรรมการแพลตฟอร์ม Youth In Charge กล่าวว่า การปฏิรูประบบสุขภาวะของไทย ไม่ใช่เพียงการสร้างระบบใหม่ แต่คือการเปลี่ยนระบบคิด และระบบคุณค่าของสังคมไทยทั้งระบบ โดยเริ่มต้นจากฐานรากที่สำคัญที่สุด นั่นคือชุมชนท้องถิ่น ไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงระบบ วิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ล้วนส่งผลต่อสุขภาวะของประชาชนโดยตรง ถึงเวลาแล้วที่เราต้องขยับจากระบบที่ขับเคลื่อนด้วย GDP ไปสู่ระบบที่ยึดหลัก Total Well-being การเติบโตที่ไม่ใช่แค่ฉลาด (Smart Growth) แต่ต้องถูกทาง (Rightful Growth) คือเติบโตอย่างมีความหมาย มีคุณค่า และสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และจิตวิญญาณ
“Thailand Imagineering คือการลุกขึ้นมากำหนดอนาคตร่วมกัน หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนสุขภาวะแบบองค์รวม คือการสร้างชุมชนท้องถิ่นให้กลายเป็น ‘ผู้ออกแบบอนาคตของตนเอง’ โดยใช้พลัง 5 หัวใจ หรือ 5 DNA ชุมชนท้องถิ่น ได้แก่ Inclusive: เปิดกว้าง ครอบคลุม Participative: ร่วมคิด ร่วมทำ Responsive: ตอบสนองต่อปัญหาได้รวดเร็ว Regenerative: ฟื้นฟูอย่างยั่งยืน Innovative: สร้างสรรค์และเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างชัดเจนในหลายพื้นที่คือการลุกขึ้นมาร่วมออกแบบ ‘ผังแม่บทชุมชน’ ด้วยตนเอง มีการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่นพัฒนาระบบสุขภาพ สร้างศูนย์การเรียนรู้ข้ามรุ่น และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับชุมชน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากพลังของประชาชนเอง สุขภาวะที่แท้จริง ” ดร.สุวิทย์ กล่าว


**เกียรติบัตร ชุมชนท้องถิ่นต้นแบบ 128 แห่ง
ภายในงาน“สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน ปี 2568” ได้มอบเกียรติบัตรแก่ ชุมชนท้องถิ่นต้นแบบ 128 แห่ง ที่มีระบบและกลไกการขับเคลื่อนสุขภาวะชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า เกียรติบัตรเหล่านี้เป็นพลังใจ เป็นเครื่องยืนยันว่า ‘สุขภาวะสร้างได้’ หากชุมชนร่วมกันลงมืออย่างจริงจัง การขับเคลื่อนสุขภาวะชุมชนต้องอาศัย 3 หัวใจหลัก 1. สานพลัง 2. สร้างนวัตกรรม ชุมชนต้องใช้ทุนทางสังคมที่มี ผสานองค์ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สร้างนวัตกรรมสุขภาวะทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการเมืองการปกครอง 3. นำสู่สุขภาวะที่ยั่งยืน ผ่านกลไกที่ชุมชนเป็นเจ้าของและจัดการตนเองได้ บูรณาการงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สร้างพลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
“การมีสุขภาวะชุมชนที่ดี คือการที่ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีอาชีพ มีรายได้ และมีความรู้ในการดูแลสุขภาพและมีความสามารถในการจัดการตนเอง สสส. กำหนดให้ ‘แผนสุขภาวะชุมชน’ เป็น 1 ใน 15 แผนหลักในการขับเคลื่อนประเทศ โดยมีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ เป็นกลไกสำคัญ


**ขับเคลื่อน 12 ประเด็น 34 เป้าหมายสร้างชุมชนน่าอยู่
นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ กล่าวว่า เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ และภาคีสร้างเสริมสุขภาพทั่วประเทศ ได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน มี 4 แนวทางหลัก คือ 1. การใช้พื้นที่เป็นฐานในการพัฒนา ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลง 2. ใช้ศาสตร์ของพระราชา น้อมนำเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ระเบิดจากข้างใน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักการทำเครื่องมือในการทำงาน 3. สานพลังทุกภาคส่วน บูรณาการการทำงานร่วมกันของ 4 องค์กรหลัก (ท้องที่ ท้องถิ่น องค์กรชุมชน หน่วยงานรัฐในพื้นที่) รวมทั้งภาควิชาการ และภาคประชาสังคม 4. การประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อน 12 ประเด็น 34 เป้าหมาย ได้แก่ 1. ควบคุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า 2. ความปลอดภัยทางถนน 3. ระบบอาหารเพื่อสุขภาวะ 4. ดูแลผู้ป่วยจิตเวช 5. รับมือวิกฤติสิ่งแวดล้อม 6. พัฒนาเด็กและเยาวชน 7. พัฒนาศูนย์ชุมชนแบบบูรณาการ 8. ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน 9. เศรษฐกิจชุมชนและหนี้ครัวเรือน 10. ส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม 11. จังหวัดจัดการสุขภาวะชุมชน เชื่อมโยงจากหมู่บ้านถึงจังหวัด 12. ขับเคลื่อนสมัชชาชุมชนท้องถิ่นอภิวัฒน์ระบบสุขภาพ เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ขอร่วมเป็นพลังเชื่อมโยงทุกฝ่าย ขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง และสร้างสุขภาวะของประเทศอย่างยั่งยืน