เข้าสู่ต้นเดือนธันวาคม ด้วยความหนาวเย็นก็ปกคลุมในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคเหนือและอีสาน รวมไปถึงมีลมเย็น ๆ พัดพาเอาความหนาวมาเยือน กทม. (เป็นบางวันและบางพื้นที่) บรรยากาศแบบนี้ชวนเหล่าคอหนังคงแทบไม่อยากไปไหน นอกจากหาเครื่องดื่มร้อน ๆ ทานกับของว่างเบา ๆ ไปพร้อมกับดูภาพยนตร์สนุก ๆ ในห้องอุ่น ๆ

สำหรับสถาการณ์ตลาดหนังตอนนี้ เรียกว่าเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่ง ที่หลายค่ายดัง ทยอยนำภาพยนตร์ที่น่าสนใจมาประชันกันอย่างต่อเนื่องในแพลตฟอร์ม สตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ‘Hawkeye’ คุณพ่อฮีโร่นักธนูพิฆาต จากค่าย “มาร์เวล” หรือจะเป็น แอ๊คชั่นสุดฮาอย่าง Free GUY ขอสักทีพี่จะเป็นฮีโร่ ที่มีนักแสดงมาดกวนอย่าง ไรอัน เรย์โนลส์ มารับบทตัวเอก 2 เรื่องนี้ สามารถติดตามชมได้ทางช่อง “ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์”

ขณะที่ช่อง Netflix ส่งหนังแอนิเมชั่นสวย ๆ จากจีนเข้าประชันใน “นาคามรกต” หรือ “Green Snake” มาให้คอหนังได้ยลกันแล้ว รวมไปถึง ซีรีส์เกาหลี แอ๊คชั่น ดราม่า โรแมนติก The King ‘s Affection : ราชันผู้งดงาม ที่ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นทุกตอน ล่าสุดกับหนังแนวครอบครัว ที่เหล่านักวิจารณ์ยืนยันว่า ไม่ว่าจะดูกี่รอบก็ยังรู้สึกดีและอบอุ่นหัวใจเสมอใน A Boy Called Christmas (เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส) โดยหนังถูกฉายมานานกว่าสัปดาห์แล้ว แต่กลับยังอยู่ในอันดับ Top 5 ของค่าย Netflix สู้กับหนังยอดนิยมเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างสบาย ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง

เรื่องย่อ A Boy Called Christmas
A Boy Called Christmas หรือ เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส เป็นภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นดราม่า แฟนตาซี ความยาว 106 นาที จากหนังสือเรื่อง Father Christmas ซึ่งถูกนำมาตีความใหม่ โดยฝีมือผู้กำกับ กิล เคแนน ที่เคยมีผลงานอย่าง Monster House และยังไปเขียนบทให้ Ghostbusters หรือ บริษัทกำจัดผี ซึ่งกำลังทำเงินสูงสุดใน Box Office ช่วงสัปดาห์ต้นเดือนธันวาคมนี้ ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของต้นกำเหนิดวันคริสต์มาส เริ่มจาก เด็กชายที่ชื่อ นิโคลัส (เฮนรี ลอว์ฟูล) มีความเชื่อเกี่ยวกับดินแดนแห่งเอลฟ์ ที่จะนำความหวังมาสู่ชาวเมืองตามคำบอกเล่าของแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว

วันหนึ่งพระราชาออกประกาศรวบรวมผู้กล้าตามหาความหวังที่จะทำให้ชาวเมืองมีความสุข พ่อของเขาได้ร่วมเดินทางไปกับคณะผู้คนหาดินแดนใหม่ จึงได้วานให้ ป้าชาร็อตต้า (พี่สาวของแม่) รับบทโดย (คริสเตน วิก) มาดูแลลูกชายระหว่างไปปฏิบัติภารกิจหลายเดือน เด็กน้อยถูกป้าใจร้าย ไล่ออกมานอนนอกบ้านท่ามกลางหิมะหนาวเย็น เธอเลี้ยงดูหลานชายแบบอด ๆ อยาก ๆ จนเด็กน้อยร่างกายผ่ายผอม ทั้งยังเอาตุ๊กตาผักที่แม่ทำให้เป็นของเล่นชิ้นสุดท้าย ไปต้มทำซุปผักให้เด็กน้อยกินก่อนจะพูดจาดูถูกน้องสาวตัวเอง นั่นจึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เด็กน้อยจะอดทนกับพฤติกรรมของป้า เขาจึงหนีออกจากบ้านฝ่าหิมะไปหาพ่อที่กำลังออกตามหาดินแดนแห่งความหวัง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันได้ทาง Netflix เท่านั้น

จุดเด่นของ A Boy Called Christmas
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกนำไปฉายในโรงภาพยนตร์บางประเทศ และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมของหนังแนววันคริสต์มาสที่สร้างแรงบันดาลใจเชิงบวกให้แก่ผู้ชม ตัวเรื่องเขียนออกมาแนวชีวิตเด็กน้อยผู้น่าสงสาร สิ้นหวังกับความทุกข์ ปูเรื่องให้เห็นถึงความรักระหว่างพ่อลูก ความรักระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงอย่างหนูตัวเล็ก ๆ กระทั่งมีการแฝงบทพูดด้วยปรัชญาด้านบวกต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ก็ยังมีความหวัง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงของชีวิต และที่สำคัญที่สุด หนังมุ่งเน้นที่จะความรักให้แก่ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่บุคคลที่มีพฤติกรรมไม่ดีมาก่อน ในส่วนของโปรดักชั่น มีทีมสร้างฉาก CG และมุมภาพต่าง ๆ สวยงามมากมาย ผู้ชมจะได้เห็นภาพกว้าง ๆ ของป่าสนเขาสวย ๆ เมืองของมนุษย์และเอลฟ์ที่สวยงามสุขสงบ

ในส่วนของดารานำ เฮนรี ลอว์ฟูล ผู้รับบท นิโคลัส สามารถเข้าถึงตัวตนของเด็กน้อยได้เป็นอย่างดี ตีบทแตกเรียกความน่าสงสารได้สุด ๆ ขณะที่ แซลลี่ ฮอว์กินส์ นักแสดงออสการ์จาก Shape of Water เป็นอีกคนที่ตีบทแตก ในเรื่องนี้เธอรับบท “พระแม่โวดัล” ผู้นำฝ่ายเอลฟ์ ที่ดูจะร้ายและเผด็จการ แต่กลับแฝงไว้ด้วยความอึดอัดใจบางอย่าง ผู้ชมจะเกิดความสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นผู้นำเผด็จการเช่นนี้

และคนสุดท้านที่แสดงได้ดีสุด ๆ ก็คือ แมกกี้ สมิธ ผู้เคยรับบท ศาสตราจารย์มักกอนนากอล ในหนัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่กลับมาคราวนี้เธอรับบทเป็น “คุณป้ารูธ” ผู้ชอบผู้จาโผงผางแต่ก็จริงใจกับหลาน ๆ ซึ่งแม้บทของป้าจะดูไม่มากมายหรือโดดเด่น แต่สิ่งที่เธอแสดงออกมากลับทำให้ผู้ชมรับรู้ได้ถึงสายตาที่อ่อนโยนของหญิงวัยชรา ดูแล้วรู้เลยว่าเธอรักและห่วงใยหลานๆ มากแค่ไหน อีกทั้งในช่วงท้ายของเรื่องก็ยังมีบทส่งท้ายน่ารัก ๆ ให้ได้ชมกันด้วย

จุดอ่อนของ A Boy Called Christmas
แม้หนังจะไม่มีความรุนแรงหรือชวนสยอง สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัยแบบเพลิน ๆ ก็ตาม แต่ปรากฏว่ามีบางช่วงบางตอนแอบแฝงความดาร์กเอาไว้ จนกลายเป็นปมคำถามที่อาจทำร้ายใจเด็ก ๆ ได้ ขณะที่การดำเนินเรื่องทำแบบตรงไปตรงมา ตามสูตรสำเร็จหนังแนวครอบครัว คือให้พระเอกอย่าง “นิโคลัส” เป็นตัวบอกเล่าเรื่องราว สามารถเดาทิศทางเรื่องได้ไม่ยาก และแม้จะมีซีนดราม่าเรียกน้ำตาผู้ชมหลายซีน แต่ก็ยังองค์ประกอบภาพบางอย่างไป ขาดความสมบูรณ์และความสมเหตุสมผล แทนที่จะส่งเสริมให้เกิดความเศร้า กลับกลายเป็นเรื่องราวดูผ่าน ๆ น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

4/5 กะโหลก สำหรับหนังแนวครอบครัว ที่มุ่งสร้างความรักความอบอุ่นและความเข้าใจในทุกมุมมองของชีวิต แม้บางคนต้องสูญเสียคนรัก แต่ก็ยังต้องเติบโต และหาหนทางก้าวไปข้างหน้าได้เสมอ


คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ Netflix