หลาย ๆ ท่านคงสงสัยมานาน ว่ารหัสที่ปรากฎอยู่บนรถ ไม่ว่าจะเป็น VTEC , i-VTEC , VTEC-E, VVT-I, VVTi-L, VTEC, MIVEC, VVL , CVTC นั้นมันคืออะไร ซึ่งคำตอบก็คือตัวย่อของระบบ “วาล์วแปรผัน” ที่มีใช้อยู่ในรถทุกรุ่นในปัจจุบัน โดยแต่ละยี่ห้อจะใช้ชื่อเรียกที่ต่างกันไปด้วยปัญหาด้านสิทธิบัตร

การทำงานของระบบวาล์วแปรผัน
แต่เดิมเครื่องยนต์ในยุคก่อน ที่ใช้วาล์วและเพลาราวลิ้นตายตัว จะไม่สามารถรักษาส่วนผสมที่เหมาะสมระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิงไว้ได้ในทุกความเร็วรอบ โดยจะเห็นได้ว่า รถที่ต้นจัดปลายจะอั้น ขณะที่ต้นอืดแต่ปลายไหล และเมื่อใดที่ต้องการกำลังที่มากขึ้น ก็จะใช้วิธีขยายขนาดลูกสูบ หรือติดตั้งเทอร์โบ อัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ แต่ก็ได้ผลในเฉพาะรอบเครื่องยนต์สูง

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาวิศวะกรก็สามารถพัฒนา ระบบวาล์วปิดเปิดให้แปรผันได้ตามความเร็วรอบของเครื่องยนต์ โดยสามารถทำให้วาล์วไอดีเปิดได้นานขึ้นในรอบสูงที่เครื่องยนต์ต้องการปริมาณอากาศมาก และปิดเร็วขึ้นเพื่อลดอากาศให้น้อยลงในรอบต่ำ จุดประสงค์เพื่อคงอัตราส่วนผสมที่เหมาะสม ส่งผลให้ได้อัตราเร่งทันใจในทุกช่วงความเร็ว ความประหยัด และลดมลพิษจากไอเสียได้ดีกว่าพ่วงมาด้วย

เทคนิคควรรู้
ระบบวาล์วแปรผันที่ใช้กับเครื่องยนต์ในปัจจุบันสามารถแยกย่อยได้ 2 แบบ
-แบบกำหนดค่าความแปรผันที่กระเดื่องวาล์ว ใน VTEC ของฮอนด้า และ MIVEC ของมิตซูบิชิ
-แบบกำหนดค่าความแปรผันที่เพลาราวลิ้น ใน VVT-I ของโตโยต้า ฯลฯ
เมื่อระบบวาล์วแปรผัน เกี่ยวดองหนองยุ่งอยู่กับ กระเดื่องวาล์ว , เพลาราวลิ้น เราจึงควรดูแลด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน ตามกำหนดอย่างเคร่งครัด

ในเมื่อ “ระบบวาล์วแปรผัน” ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้สมบูรณ์ รีดขุมพลังได้ทุกความเร็วรอบ แถมยังประหยัดและลดมลพิษได้ดีกว่า ผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่ายจึงแข่งกันพัฒนา ส่งผลให้ผู้ใช้อย่างเรา ๆ ได้ประโยชน์…

…………………………….
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ 
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]