แม้จะโดนสารพัดมรสุมปัญหา ทั้งลูกน้อยใหญ่ ถล่มเล่นงานมาตั้งแต่ต้นปี 2565 จนสภาพ “รัฐนาวา” นำพาบริหารโดย พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในสภาพโคลงเคลงไปมาเต็มที

แต่ท่านผู้นำฯ ยังคงแสดงความเด็ดเดี่ยวเชื่อมั่นในตัวเองประกาศชัด เพื่อประเทศชาติประชาชน ผมไม่มีแพ้ใครอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ช่วงวันที่ 17-18 ก.พ.ที่ผ่านมาหมาดๆ โดนพรรคฝ่ายค้านงัดข้อมูลมาอภิปรายโจมตีดุเดือดเผ็ดมัน ไล่บี้กดดัน ให้ลาออก หรือไม่ก็ ให้ยุบสภา

ถึงขั้นเหน็บแนมแบบสุดแสบทำ หนังสือขอลาออกตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาเตรียมให้เซ็น พร้อมเขียนบรรยาย ว่า ตามที่ข้าพเจ้าได้บริหารมา 8 ปี แต่กลับล้มเหลวในทุกมิติ ทำให้ประเทศพังไม่มีชิ้นดี ประชาชนยากจนข้นแค้น เศรษฐกิจของประเทศเสียหายเกินกว่าจะประเมินค่าได้ เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของตระกูล เกียรติของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกียรติยศของประเทศชาติ จึงขอลาออกจากตำแหน่ง แต่ก็โดนสวนกลับไปว่าเก็บไว้ให้ตัวเองแล้วกัน ’ผมยังไม่ลาออก“

เรียกว่าแม้จะถูกไล่ต้อนจนแทบจนมุม เจอถลุงน่วม สภาพกำลังไม่แตกต่างจากอาการนักมวยเมาหมัด เริ่มตอบโต้แบบออกทะเล!!

ช่วงนี้ยังพอมีเวลาพักยกหายใจบ้าง ถ้าลองตั้งสติทบทวนทำไมถึงโดนโจมตีชนิดแบบหนักหนาสาหัสเช่นนี้!! แต่อย่าลืมเปิดเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย เนื้อร้องโดย พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ./หัวหน้าคณะ คสช. ฟังเบา ๆ ตามไปด้วย คำมั่นสัญญา อะไรบ้างที่เคยพูดไว้หลังใช้กองทัพรัฐประหารยึดอำนาจผ่านมากว่า 7 ปีแล้ว หรือถ้ายกตัวอย่างแค่เรื่องเดียว “ก้าวข้ามผ่านความบาดหมาง” นอกจากจะทำไม่ได้แล้ว ยังกลายเป็น คู่ขัดแย้ง กับ บรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาว ที่จะโตไปเป็นอนาคตของชาติ

ปัจจุบันยังมีบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อย ที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตกเป็น นักโทษทางความคิด อนาคตแทบจะดับวูบ มีทั้งถูกดำเนินคดีจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำ หลายคนยังอยู่ในคุกไม่ได้รับการประกันตัว เมื่อเปรียบเทียบกับ คดีตำรวจขี่ จยย.ชนแพทย์หญิงเสียชีวิตขณะเดินข้ามทางม้าลาย โทษหนักความผิด 7 ข้อหา แต่ตำรวจแทบจะไม่ย่างกรายไปกินนอนอยู่ในเรือนจำ มีโอกาสต่อสู้คดี แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับคดี กลุ่มนักโทษทางความคิด

ปลดแอก'ชุมนุมแน่นสกายวอล์ก ชู3นิ้วตะโกนไล่รัฐบาล | เดลินิวส์

เชิงผา เข้าไปติดตามข้อมูล จากเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่า ตั้งแต่เริ่ม การชุมนุมของเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63-4 ก.พ. 65 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไปแล้ว 1,767 คน (1,009 คดี) ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี 274 ราย
( 195 คดี) เยาวชนอายุน้อยสุด วัยเพียง 14 ปี ถูกจับกุมดำเนินคดีจากเหตุชุมนุม ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 64 และเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ เยาวชนรายนี้ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64

สถานการณ์ปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้ไม่ได้มีกิจกรรมหรือการชุมนุมขนาดใหญ่เกิดขึ้น บรรดานักกิจกรรมแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น แกนนำนักศึกษา เยาวชนอีกหลายกลุ่ม รวมถึง ประชาชน ที่เคยออกมาเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมชุมนุมการเมืองตั้งแต่ปี 2564 ไม่ว่าจะเป็นคดีอันเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง กิจกรรมที่หน้าเรือนจำ หรือหน้าองค์การสหประชาชาติ ฯลฯ หลายคนก็ยังคงถูกตำรวจออก หมายเรียกในคดีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

ถ้าฟังเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทยแล้ว คงจะพอรู้ว่า 7 ปีที่ผ่านมา มีหลายเรื่องยังไม่ได้ทำตามสัญญา อีกทั้งกลายเป็น “ต้นตอปัญหา” และยืนยันไม่ยอมแพ้-ไม่ยุบสภา-ไม่ลาออก เมื่อเป็นเช่นนี้คงต้องเฝ้าลุ้นดู ตอนจบของ “อดีตผู้นำรัฐประหาร” จะลงเอยเช่นไร!!.

————
เชิงผา