เดี๋ยวนี้เวลาจะขับรถไปไหนมาไหนบนท้องถนน ก็มักจะพบเห็นรถยนต์ที่ใช้งาน “เกียร์ออโตเมติก” ให้เห็นกันอยู่มากมายหลายต่อหลายรุ่น เพราะความสะดวกสบายและใช้งานได้ง่ายของเกียร์ประเภทนี้ แต่เกียร์ออโต้ก็ย่อมมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเกียร์ธรรมดาเสมอ ฉะนั้นหากมีการใช้งานที่ถูกต้อง ย่อมจะยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานอย่างแน่นอน วันนี้ “ช่างเอก” จึงขอพามาทำความรู้จักกับ 4 พฤติกรรมลดอายุการใช้งาน “เกียร์ออโต้”

1.ชอบเปลี่ยนเกียร์ หรือชิฟต์เกียร์ขึ้น-ลงบ่อยๆ ที่จะแถมมากับการชอบลากรอบเครื่องให้สูงบ่อยๆ เพิ่มอัตราทดโดยใช้ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงๆ ยิ่งหากเป็นรถยนต์ที่มี “Paddle Shift” ก็จะยิ่งเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงการเร่งเครื่องแบบเหยียบมิดคันเร่งเพื่อออกตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ จะทำให้ชิ้นส่วนภายในห้องเกียร์สึกหรออย่างหนักหน่วง ส่งผลให้น้ำมันเกียร์ร้อนจัด ชิ้นส่วนในห้องเกียร์จะเกิดการสึกหรอและเสียหายจากความร้อน 

2.ไม่รอให้รถหยุดสนิท แล้วรีบเปลี่ยนเกียร์แบบทันที เช่น ยังไม่ทันจอดให้นิ่งดี ก็เปลี่ยนเป็นใส่เกียร์ P หรือเกียร์จอดทันที จนได้ยินเสียงเฟืองขบกันแบบชัดๆ

3.เชนเกียร์ลงต่ำที่ความเร็วรอบสูงมากๆ เป็นการลดเกียร์ลงขณะที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูง หวังจะใช้เอนจิ้นเบรกช่วย ซึ่งในจังหวะดังกล่าวนั้นเอง เครื่องยนต์จะถูกความเร็วของล้อ และเพลาขับกระชากให้หมุนอย่างรุนแรง ชิ้นส่วนภายในห้องเกียร์จะต้องรับแรงดันและความเร็วของการหมุนจนเกินพิกัด แต่ในปัจจุบันนี้ เกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่เกือบทั้งหมดจะมีระบบป้องกันการชิฟต์เกียร์ลงต่ำที่ไม่มีความสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ แต่หากไม่มีเซ็นเซอร์คอยป้องกันการชิฟต์เกียร์ลงต่ำขณะใช้รอบสูงมาก ก็แน่นอนว่าจะเป็นการใช้งานเกียร์ที่หนักหน่วงเกินความจำเป็น

ปิดท้ายที่ข้อ 4.ขี้เกียจเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มันถึงเวลา ยิ่งเมื่อถูกอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย บวกกับสภาพการจราจรที่ติดขัดแบบมหาโหดด้วยแล้ว ย่อมที่จะทำให้เกียร์เกิดการสึกหรอเป็นธรรมดา ซึ่งแทนที่จะเสียเงินเพียงไม่เท่าไหร่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ แต่กลับต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนเกียร์ใหม่ยกลูก!

…………………………….
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ 
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]