“มีเกิดก็ต้องมีดับ มีเจอก็ต้องมีจาก ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีการพลัดพรากจากกันไปเป็นธรรมดา ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต แม้แต่ตัวเราเองเมื่อตายแล้วก็เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้…..นอกจากบุญและบาป”

ในสถานการณ์โควิดที่มันโหมซัดพัดกระหน่ำซัมเมอร์เซลแบบนี้ น้อยคนนักที่จะไม่หวาดหวั่น ขวัญผวา หวาดกลัวว่าตัวเราจะติดเชื้อ คนรักจะติดเชื้อ หรือคนในครอบครัวจะติดเชื้อ ทุกๆ คนล้วนแต่กลัวกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะมากมายหรือเล็กน้อยเท่านั้นเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เช่นกันที่หลีกเลี่ยงและหลีกหนีความกลัวไปไหนไม่ได้ ก็ในเมื่อเจ้าโควิดมันเป็นเชื้อไวรัสที่ไม่ได้กลัวเครื่องแบบสีกากี หรือหวั่นเกรงดาวบนบ่าเลยแม้แต่น้อย มันพร้อมที่จะเข้าไปสู่ร่างกายตำรวจได้ทุกนายและตลอดเวลาด้วย

ในเวลานี้ด่านหน้าที่เราพูดถึงกันตลอดคงหนีไม่พ้นบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ อันนี้คงไม่มีใครคัดค้าน แต่ไม่ควรลืมว่าตำรวจก็เป็นด่านหน้าเช่นกัน ซึ่งแม้ว่าไม่ได้รักษาคนป่วยโดยตรง แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามหน้างานมันก็ยังต้องเสี่ยงอยู่ดี

โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อยทั่วประเทศ ผู้ที่มีความน่าเห็นใจแบบเต็มๆ เพราะหน้างานแต่ละวันมันมีความเสี่ยงอยู่ตลอด นายสั่งให้ทำก็ทำ นายสั่งให้ไปก็ไป นายสั่งให้ลุยก็ลุย ทั้งๆ ที่ใจจริงแล้ว ถามว่ากลัวโควิดมั้ย ตอบแทนได้เลยว่าพวกเขาก็กลัว กลัวทั้งตัวเองจะติด กลัวทั้งจะนำเชื้อกลับมาติดคนในครอบครัวที่พวกเขารัก แต่เพราะภาระหน้าที่ยังไงพวกเขาก็ต้องทำ..ทำ..ทำ..และทำต่อไป

วันก่อนมีข่าวที่น่าสะเทือนใจ ตำรวจชั้นผู้น้อยปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งจนตัวเองติดโควิด ลามติดคนในครอบครัว แต่สิ่งที่ได้รับคือไม่สามารถรักษาตัวในนครบาลได้ ต้องเดินทางกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด สุดท้ายต้องมีการชี้แจงแถลงไขกันใหญ่โต

ว่ากันมาถึงตรงนี้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอยกตัวอย่างคำตัดพ้อที่ออกมาจากปากของตำรวจชั้นผู้น้อยสักนิดสักหน่อยแล้วกัน เผื่อจะมีอันไหนสักอันเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้บ้าง

“ลูกน้องติดโควิดสภาพจิตใจก็ย่ำเเย่พอเเล้ว คนเป็นนายต้องมีใจเมตตา ไม่ดูเเลกันตอนเจ็บป่วยจะไปดูเเลกันตอนไหน ถ้าติดเชื้อขึ้นมาจริงๆ รพ.ที่จะรับรักษาตอนนี้ก็ไม่มี”

“ทุกๆ วันนี้ที่ต้องทำคือ ระงับเหตุทำร้ายร่างกาย ลักวิ่งชิงปล้น การชุมนุมทางการเมือง การล็อกดาวน์ การมั่วสุมดื่มสุรา การพนัน ยาเสพติด การอาละวาด ทั้งหมดที่ทำล้วนแต่เสี่ยงติดเชื้อ”

“โครงการรับส่งผู้ป่วยโควิดตอนนี้ คนนำส่งต้องจ่ายค่าน้ำมันเอง ปัญหาคือถ้าสำรองจ่ายไป แล้วผู้ใต้บังคับบัญชาจะไปเบิกเงินกับผู้บังคับบัญชาท่านใด”

“น้อยใจมาก สถาบันการเงินหลายแห่งออกมาประกาศพักชำระหนี้ให้ลูกหนี้ เเต่ทำไมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจทั่วประเทศกลับยังไม่ทำแบบนั้นบ้าง”

“ผู้ใหญ่พาเดินสายเเจกข้าวเเจกน้ำให้จุดโน้นทีจุดนี้ที แต่ไม่เคยหันกลับมาถามผู้ใต้บังคับบัญชาเลยว่า วันนี้เอ็งความเป็นอยู่ยังไง มีข้าวสารหุงให้เมีย มีน้ำให้ลูกดื่มบ้างมั้ย”

นี่เป็นคำตัดพ้อแค่บางส่วนเท่านั้นที่ตำรวจชั้นผู้น้อยได้แค่บ่นให้คนรอบข้างฟัง และคงไม่กล้าที่จะบอกความจริงจากใจเหล่านี้ให้ผู้เป็นนายฟังหรอก พวกเขาคงไม่คิดถึงขนาดให้เจ้านายหันมาเชิดชู ยกย่อง หรือแม้แต่ให้รางวัลเกียรติยศชมเชยอะไร เพียงแค่หวังไว้ลึกๆ ในใจว่า อยากให้นายชายตาแลลงมาดูบ้าง ช่วยเหลือบ้าง ซัพพอร์ตบางเรื่องบ้าง เข้าใจในสถานการณ์บ้าง ก็เท่านั้นเอง แต่มันคงเป็นแค่..ความเงียบที่ดังที่สุด เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าที่จะบอกความจริงนี้ออกไป

ทั้งๆ ที่อยากจะตะโกนว่า “ซื้อใจลูกน้องบ้างก็ได้ครับ มันคงไม่แพงไปกว่าลูกน้องซื้อใจนายหรอก”

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

อบรมป้องกันอาชญากรรม

พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มอบหมายให้ พ.ต.ท.ยุทธนา ทาตะรัตน์ สวป.สภ.ชุมแพ ร.ต.อ.อัมพร จักษุทิพย์ รอง สว.จร.สภ.ชุมแพ ทำหน้าที่วิทยากร อบรมเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ตามโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล ประจำปี 2564 เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายประชาชนป้องกันอาชญากรรม ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารเบื้องต้นให้กับเจ้าหน้าที่ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ หรือป้องกันตัวเองในชีวิตและทรัพย์สิน การช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อนบ้านข้างเคียง การจดจำรูปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุ ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดอิสาณ บ้านอาจสามารถ ต.นาเพียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

ชุดโควิดฉุกเฉิน

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิดทั้งภาพรวมทั้งประเทศไม่มีท่าทีที่จะลดจำนวนน้อยลง ความหวังคนไทยแทบจะริบหรี่ในเวลานี้ แต่เพื่อไม่ประมาท พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้สั่งการให้ทุก สภ.เตรียมการรับสถานการณ์และแผนเผชิญเหตุไว้ทุกๆ ด้าน สำหรับ สภ.เมืองหนองบัวลำภู สั่งมาจัดให้รวดเร็วทันใจว่าแล้ว พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจิตอาสาชุดโควิดฉุกเฉิน เพื่อสนับสนุนภารกิจในพื้นที่รับส่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในเขตรับผิดชอบ สามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้รถยนต์ควบคุมผู้ต้องหา มีการฝึกซ้อมตามมาตรการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดและยุทธวิธีตำรวจได้ทันท่วงที ขณะที่ ธีรยุทธิ์ เชาวน์จิรกิตติ์ ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองหนองบัวลำภู คนใหม่ล่าสุด และเป็นประธานมูลนิธิรวมน้ำใจ คนมีน้ำใจ ได้ปฏิญาณตนภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ไว้ต่อหน้าคณะกรรมการว่ามีอะไรขาดเหลือให้บอกมาพร้อมสนับสนุนกิจการของตำรวจเมืองหนองบัวลำภู

***********************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ

โดย : บิ๊กสลีป