‘พีลี่’ (Pili) ไม่เพียงเป็นชื่อรายการหรือซีรี่ส์เกี่ยวกับหุ่นกระบอกที่ได้รับความนิยม แต่ยังเป็นชื่อสตูดิโอหุ่นกระบอกจากไต้หวันที่สร้างชื่อเสียงด้วยการผสมผสานศิลปะพื้นบ้านเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการว่า Pili International Media

ซีรี่ส์ของพีลี่เริ่มออกอากาศทางโทรทัศน์ตั้งแต่ปี 2528 แนวทางการประยุกต์การแสดงพื้นบ้านเข้ากับเนื้อเรื่องสมัยใหม่ รวมถึงการออกแบบตัวหุ่น เสื้อผ้า ฉากและเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ให้โดนใจคนรุ่นใหม่ นับว่าได้ผล เป็นการต่อลมหายใจให้วัฒนธรรมดั้งเดิมและงอกงามไปในแง่มุมใหม่ ๆ พร้อมกัน

สำหรับคนที่คุ้นเคยกับงานอนิเมะ ซีรี่ส์จากฝั่งญี่ปุ่น อาจจะเคยได้ยินหรือได้ชมผลงานในรูปของซีรี่ส์และภาพยนตร์มาบ้าง โดยเฉพาะเรื่อง Thunderbolt Fantasy ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

หวางเลี่ยงซุน ผู้จัดการใหญ่ของพีลี่ ประกาศถึงการเดินทางก้าวใหม่ของพีลี่สู่โลกดิจิทัลด้วยการออกผลงาน NFT เพื่อขยายฐานผู้ชมหรือลูกค้าและช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์งานพาณิชย์ศิลป์ประเภทนี้ให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากเป็นการสร้างช่องทางแห่งรายได้ช่องทางใหม่

ความจริง พีลี่ก้าวเข้าสู่โลกของ NFT มาก่อนหน้านี้แล้วเมื่อเดือนต.ค. 2564 ด้วยการออกซีรี่ส์ NFT ของตัวละครยอดนิยมสำหรับนักสะสม เดิมทีงานส่วนการจัดสร้างทั้งฉากและตัวหุ่น รวมถึงศิลปะการเชิดของพีลี่ก็คือว่าเป็นงานที่ต้องทุ่มเทสูงและส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ยังต้องทำด้วยมือมนุษย์ ยกเว้นในส่วนของวิชวลเอฟเฟ็คต์ต่าง ๆ 

หวางกล่าวว่าบริษัทให้ความสนใจในตลาดส่วนนี้มาก แต่ก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังในการใช้ NFT เพื่อเปิดทางให้คนทั่วโลกรู้จักหุ่นกระบอกในแบบของพีลี่มากขึ้น เนื่องจากจุดอ่อนของพีลี่ในตอนนี้ก็คือยังมีผู้ชมต่างชาติที่เข้าใจและชื่นชมศิลปะประเภทนี้ของไต้หวันในจำนวนที่ไม่มาก 

โอกาสในโลกเมตาเวิร์สนั้นมีมาก แต่พวกเขาจะไม่เร่งรีบเข้าไปทำตลาดในนั้น หากต้องการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อผลดีในระยะยาวมากกว่าจะเน้นเรื่องผลกำไรเป็นตัวเงิน

กระนั้นก็มีข้อมูลว่าพีลี่ส่งตัวละครยอดนิยม 4 ตัวในเวอร์ชันดิจิทัลลงสู่ตลาด NFT เป็นจำนวนมากถึง 30,000 ชุด โดยที่บริษัทปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลของผลกำไรจากการขาย แต่คาดว่าไม่น่าจะต่ำว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 40 ล้านบาท และมีแผนที่จะนำตัวละครอีก 50 ตัวมาแปลงโฉมเป็นผลงานดิจิทัล เพื่อนำออกจำหน่ายในตลาด NFT

พีลี่มีผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดคือ ‘DEMIGOD : The Legend Begins’ และเพิ่งออกฉายรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

ก่อนหน้านี้หลายปี พีลี่เคยพยายามบุกตลาดโลกมาแล้วด้วยการทำผลงานที่ได้รับการพากย์เสียงเป็นภาษาอังกฤษเรื่อง ‘Wulin Warriors’ ออกฉายทางสถานี ‘การ์ตูนเน็ตเวิร์ค’ เมื่อปี 2549 แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร โดยมีแฟนคลับและผู้ชมจำนวนมากวิจารณ์ว่าจัดทำบทพากย์ได้ไม่เหมาะสมหลายช่วงและขาดความเข้าใจในวัฒนธรรมจีน จึงทำให้ขาดอรรถรสในการรับชม

แหล่งข้อมูล : focustaiwan.tw, channelnewasian.com

เครดิตภาพ : Reuters