จัดเป็นอีกหนึ่งพระเอกที่อยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน สำหรับหนุ่ม “เคลลี่ ธนพัฒน์ ที่ล่าสุดต้องมาสวมบทหนักในละคร เวราอาฆาต ทางช่อง 8 งานนี้เราเลยไม่พลาดคว้าตัวหนุ่มเคลลี่มาอัพเดทเรื่องงานที่เจ้าตัวบอกบทนี้ยากสุดๆ และหัวใจของเจ้าตัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหนุ่มเคลลี่ก็ไม่กั๊กเลย มาจ้ามาดูบทสัมภาษณ์กัน

กระแสตอบรับในละครเห็นว่าดีมากถึงขั้นโดนด่ารัวๆ เลยใช่ไหม?

“ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกกระแสตอบรับในบทเรืองนะครับ ที่ดีมาก ๆ ดีถึงขั้นมีการด่ากันเกิดขึ้นเลยทีเดียว (หัวเราะ) เอาจริงๆ ผมเข้าไปส่องดูในโซเชียล ก็จะได้เห็นคอมเมนต์ ตั้งแต่ชมจนล่าสุดด่าผมแล้ว ช่วงเห็นแรกๆ หวั่นเหมือนกันนะ แต่คิดไปคิดมาการด่านั้นเค้าด่าในตัวละคร เค้าอินในตัวละคร ก็รู้สึกดีใจมาก ที่กระแสดี ดีใจไม่มีอะไรง่ายเลยครับ มันเป็นละครที่ท้าทายมาก สำหรับการเป็นนักแสดงของผม เพราะเราต้องเล่นได้ในทุกบทบาท คือเรื่องนี้ต้องเล่นทั้งเป็นคนดี เป็นคนเลว ทั้งบู๊ ทั้งดราม่า แถมยังต้องมีจินตนาการที่สูงมาก เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับเวรกรรม และในละครนี้ผมมีอาชีพ หนึ่งเลยคือฆ่าวัวฆ่าควาย ถ้าถามว่า ทำไมถึงต้องเป็น เวราอาฆาต ตรงนี้ก็คือเป็นที่มา เมื่อถึงเวลา เวรกรรมก็ทำให้เขากลายเป็นเหมือนสัตว์ที่เขาฆ่า มันเลยต้องไปทำการบ้านมาหนัก”

รู้มาว่า บทเรือง ทำเครียดมากถึงขั้นนอนไม่หลับเลยใช่ไหม?

“ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบเอากลับไปคิด เอาการแสดงกลับไปคิด เวลากลับบ้านผมจะชอบนั่งคิดว่า เล่นฉากนี้ควรเล่นแบบนี้ หรือควรจะเล่นแบบอื่น ควรจะต้องปรับการแสดงไหม คือการเป็นนักแสดง แม้เราจะอยู่ในวงการมากว่า 20 ปีแล้ว แต่เราก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ การเป็นนักแสดงนี่มันยากนะ เราไม่ได้มาเล่นละคร เป็นแค่คาแรกเตอร์เดียว ผมต้องเล่นได้ทุกคาแรกเตอร์ แล้วแต่ละเรื่องที่ผมเคยเล่น ผมไม่เคยเป็นเจ้าของบ่อน เจ้าของซ่อง ไม่เคยฆ่าวัวฆ่าควาย มันก็เหมือนต้องมาเริ่มต้นใหม่ เพราะฉะนั้นการเป็นนักแสดง เราก็ต้องมีการทำการบ้าน”

“อย่างตัวผมเองที่ชอบกลับมานั่งคิดว่า ผมเล่นถูกไหม ทำแบบนี้มันใช่ไหม หรือผมจะปรับอะไรได้ไหม ผมจะเป็นคนคิดเยอะตรงนี้ เป็นคนรายละเอียดเยอะครับ ยิ่งเฉพาะกับเรื่องนี้ ต้องทำการบ้านสูงมาก ต้องบอกว่า เป็นเรื่องแรก หลังจากที่หยุดโควิด มันก็จะมีความตั้งใจมาก เพราะเราไม่ได้ถ่ายละครมานาน มันก็มีความสุขที่ได้มาทำการแสดง ในหนึ่งวัน ต้องตกน้ำ โดนขี้วัวขี้ควายขี้หมู โดนเลือดสาด โดนยิงบ้าง บางวันก็อาบน้ำแต่งหน้าทำผมใหม่ 4 รอบ แล้วก็ช่วงหลังที่เป็นเรื่องของเวรกรรม เรื่องของดราม่าที่มันหนักขึ้น บางวันต้องร้องไห้ทั้งวัน คือเรายังไม่เคยร้องไห้เยอะขนาดนี้มาก่อน แต่ก็ต้องขอบคุณทั้งผู้กำกับและนักแสดง ที่สามารถดึงออกตรงนี้ออกมาได้ และก็ด้วยจากการที่เราอินกับบท แต่นักแสดงร่วมที่เราเล่นด้วย เขาก็ช่วยส่งอารมณ์ให้เรา”

อย่างฉากฆ่าวัวฆ่าควายโหดมากขนาดไหน?

“เรื่องนี้ไม่มีทำร้ายสัตว์เลย คือเวลาเราเข้าฉากกับเหล่าวัวเหล่าควาย เราจะต้องทำความรู้จักกับเขา ผมจะไปคุย ไปลูบเขา ให้อาหาร แต่เวลาทำการแสดง เราจับเขาเราไม่ได้จับแรง มันเป็นการแสดงทั้งหมด เราไม่ได้ทำความรุนแรงกับเขาเลย ผมก็แค่จับแน่น แต่ผมไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรง อย่างเอาค้อนทุบหัว มันก็เป็นการแสดง ใช้มุมกล้อง อย่างค้อนก็ไม่ใช่ค้อนจริง แล้วผมจะบอกว่า ควายนี่เป็นสัตว์ที่ฉลาดและน่ารักมากจริงๆ ผมเข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงรักควาย เขารู้หมด มองตาแล้วรู้สึกได้ อย่างที่บอกว่า เราเลยต้องไปทำความรู้จักกับเขาก่อน เขาเจอเรา เขาก็จะรู้ว่าเราไม่ได้ทำร้ายเขา ไม่งั้นเขาคงไม่ยืนนิ่งๆ ให้เราทำการแสดงได้ง่ายๆ หรอก”

ล่าสุด โสดเต็มตัวแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?

“เวลามันก็เยียวยาไปเรื่อยๆ เวลาจากนี้ก็เอาไปอยู่กับเพื่อนฝูงแล้วก็งาน ซึ่งตอนนี้ผมก็พยายามโฟกัสกับเรื่องงาน หรือธุรกิจของผม จริงๆ ที่ผ่านมา ผมเหมือนเป็นคนที่ไม่มีสมาธิ ไม่มีแรงบันดาลใจ เหมือนคนหมดไฟ แต่ตอนนั้นมีการแสดง การแสดงคืออย่างเดียวที่มันเหมือนอยู่ในสายเลือดไปแล้ว แต่อย่างตอนนี้เวลาผ่านไป มันก็ดีขึ้น มีเวลาว่างผมก็ไปออกกำลังกาย อย่างไปวิ่ง เล่นเซิร์ฟสเกตเ พราะตอนที่อยู่อเมริกาผมเป็นนักสเกตบอร์ดอยู่แล้ว ก็ได้ทำกิจกรรมที่เราชอบ ก็ได้มีเวลากับเพื่อนๆ หลานๆ ก็สนุกดีครับ”

ตอนนี้เราไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักแล้วเหรอ?

“บอกตรงๆ เรื่องความรัก ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เรียกว่าปิดนะ แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าเปิดต้อนรับทุกคน ถ้ามีเดี๋ยวมันก็มีเอง แต่มันก็อาจจะมีความกังวล เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้จะไปเริ่มจีบใครยังไง แต่ผมก็อยากจะมีใครสักคนที่อยู่เคียงข้างไปจนแก่ เราก็อยากจะมีคู่ชีวิต เป็นเพื่อน เป็นคนรู้ใจ เราก็อยากมีคนแบบนั้น ที่ผ่านมาเราก็ต้องเอาประสบการณ์ตรงนั้นมามองตัวเอง ว่าเราต้องปรับอะไรยังไง หรือจะต้องเปลื่ยนมุมมอง ผมมองว่าความรักมันสำคัญ ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมอยากจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น ความรักในมุมมองของผมก็คือ คู่ชีวิต แต่ ณ วันนี้ เราก็แค่นับหนึ่งใหม่”

“แต่พูดถึงมันก็ยากนะ ที่จะมานับหนึ่งใหม่กับใคร ยากที่จะอธิบาย ไม่ได้เป็นเรื่องที่อยากจะออกมาพูด มันคงต้องเป็นคนที่เจอแบบเราถึงจะเข้าใจ อย่างช่วงที่มันแย่ที่สุด ตอนนั้นก็ยังโชคดีที่มีละคร และเราเป็นนักแสดงมานานจนสามารถที่จะแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับงานได้ คือถ้าผมเป็นนักแสดงที่เพิ่มเริ่มต้น ผมคงพังเหมือนกัน อย่างตอนที่แม่ผมเสีย ผมเผาแม่เสร็จ วันรุ่งขึ้นผมต้องมาบวงสรวงแล้วก็ถ่ายละครเลย มันเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผมไม่น่าจะทำได้ แต่ก็ต้องทำให้ได้ เรื่องงานนี่ผมซีเรียสมาก ทุกอย่างต้องผ่านไปได้”

ตอนนี้ช่วงโควิด ธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง?

“สำหรับธุรกิจที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ผมมีคอลลาเจน ซึ่งก็ไปได้เรื่อยๆ เพราะตอนนี้คนส่วนมากอยู่บ้าน ก็จะซื้อของทางออนไลน์ แล้วสินค้าตัวใหม่เป็น กระชายขาว ที่มีการวิจัยมาว่า ช่วยเพิ่มภูมิได้ ช่วยสร้างภูมิของเรา ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ ได้ทำวิจัยมาแล้วว่า เห็นผลจริง มี อย. ทุกอย่างถูกต้อง เราทำให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ และในราคาที่จับต้องได้ เพราะเราก็อยากจะช่วยคนไทย แต่ในเรื่องของร้านอาหาร ผมทำร้านอาหารทะเล ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอะไรที่หนักใจมากตอนแรก เพราะว่าเปิดมาได้แค่เดือนเดียว ก็เจอโควิดรอบแรก ก็ต้องปิดไป เปิดดิลิเวอรี่ ก็พอไปได้พอได้ดูแลพนักงาน พอเจอรอบสองก็ไม่เท่าไหร่ เริ่มดีขึ้น แต่พอเจอรอบสาม ไม่ไหวเลย สู้ไม่ไหวจริงๆ เพราะเนื่องจากเป็นอาหารทะเล เราเน้นของสด ของเป็น ลูกค้าส่วนมากจะชอบมาทานที่ร้าน ช่วงนี้ก็เลยต้องปิดชั่วคราว ส่วนลูกน้อง พนักงานเราก็ยังต้องดูแลเขา รอให้คลี่คลายก่อน”

ถ้าโควิดยังยืดยาว มีมาตรการรับมืออย่างไรบ้าง ท้อไหม?

“ตอนนี้เราก็จะปิดแล้วก็ปรับปรุงร้าน แต่ผมเชื่อว่า มันจะต้องดีขึ้น ที่มันยังสู้ต่อไปได้ ก็เพราะว่ามันไม่ใช่แค่เราที่ได้รับผลกระทบ มันทั้งประเทศ ทั้งโลก ผมเป็นคนที่เชื่อว่า อะไรที่มันแย่ เดี๋ยวมันจะต้องดีขึ้นมันก็ต้องมีบ้าง แต่อย่างที่บอก เราก็เลยต้องมีความเชื่อที่ว่า ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น แต่อีกอย่างหนึ่งคือ เราโชคดี นอกจากธุรกิจ เรายังมีอาชีพนักแสดง อย่างน้อยผมก็ยังมีละคร ยังมีงานที่จะต้องทำ แต่มันก็มีบางวันที่รู้สึก อย่างรอบแรก ละครก็ยังไม่ได้รับ ไม่มีละคร เราจะทำอะไร นั่งอยู่บ้านเฉยๆ มันเหมือนขาดอะไรในชีวิตไป ผมเป็นคนชอบทำงาน ชอบไปอยู่กองถ่าย ได้เจอคน อันนี้ผมก็เลยเข้าใจความรู้สึกของหลายๆคนที่เครียด ที่อาจจะเป็นซึมเศร้า แต่ในรอบนี้ผมยังรู้สึกดีกว่ารอบแรก ตรงที่ ผมยังมีละครที่ผมยังถ่ายอยู่และมีละครที่จะถ่าย อย่างน้อยเราก็ยังมีเป้าหมาย เพราะฉะนั้น คนเราต้องมีความเชื่อ ความหวัง แล้วอะไรๆ มันก็จะดีขึ้น”

ฝากผลงานที่มีกับแฟนๆ สักหน่อย?

“ยังไงผมก็ขอฝากละครเรื่องเวราอาฆาตทุกด้วยดูได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 19.00 น. และดูย้อนหลังได้ที่แอพพลิเคชั่น AIS PLAY ตามด้วยงานอื่นๆ ของผมที่จะออกมาด้วยนะครับ ฝากเป็นกำลังใจให้กันครับ”

แหม….เรียกว่าแฟนๆ ของหนุ่มเคลลี่จะต้องจุใจแน่นอนเพราะเราถามกันมาทุกด้านทุกมุมเลยล่ะจ้า ใครที่รักหนุ่มเคลลี่อยู่แล้วก็อย่าลืมไปดูผลงานของเจ้าตัวกันทั้งเก่าและใหม่น้า


คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”

โดย “yimyim”