เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่วัดใหม่พรหมพิราม ตั้งอยู่เลขที่ 294/3 หมู่ 2 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อม น.ส.รภัสสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ ภรรยา ป้ารัตนา และทีมงาน ได้เดินทางมาถึงวัดใหม่พรหมพิราม ซึ่งเป็นวัดที่เป็นกระแสกรณีติดป้ายต้านหมอปลาจนโด่งดังในโลกโซเชียล และเมื่อวานตลอดทั้งวันก็มีกระแสอยู่เป็นระยะ โดยเมื่อวานนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าพื้นที่ ก็พบว่าช่วงเช้ามืดวัดได้ทำการปลดป้ายลง โดยพระลูกวัดยืนยันว่าทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดป้ายดังกล่าว ไม่ทราบใครเป็นคนติด

ต่อมาพระครูธีรศาสน์ กิจจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม ก็ออกมาพบสื่อและยืนยันเหมือนเดิมคือไม่ทราบว่าใครเป็นคนติดป้ายต้านหมอปลา ระบุส่วนตัวแล้วตนเองไม่ได้ทำ หลังจากนั้นในช่วงบ่ายเริ่มมีกระแสกลับมาในโลกโซเชียลอีกครั้ง เพราะเกิดเป็นภาพไลน์หลุดออกมาพบว่าพระนพ หรือ พระครูธีรศาส คือคนที่สั่งร้านป้ายทำป้ายไวนิลต้านหมอปลา และติดป้ายในวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา และไม่หยุดแค่นั้นชาวบ้านยังคงออกมาพูดคุยกันต่อเนื่องในเรื่องที่พระครูธีรศาส มีการดื่มเหล้าและสั่งหมูกระทะเข้ามาฉันกันทั้งวัด

จนกระทั่งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พระครูปลัดธวัชชัย ธวชชยเมธี เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย พระครูสิทธิ ธรรมานุสนธิ์ เจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม และพระครูธีรศาสน์ กิจจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม แถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยพระครูปลัดธวัชชัย ได้แถลงกรณีเรื่องป้ายไวนิลต้านหมอปลาสรุปแล้วเจ้าอาวาสเป็นคนสั่งทำป้ายไวนิลด้วยตนเองในราคา 1,800 บาท เพราะเห็นป้ายข้อความดังกล่าวในสื่อโซเชียล ก่อนนำส่งไปให้ร้านมาพิมพ์ติดที่วัด โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เบื้องต้นทางคณะสงฆ์ได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าอาวาสว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ส่วนข้อร้องเรียนของชาวบ้านในสื่อสังคมออนไลน์เรื่องการดื่มเหล้าและฉันหมูกระทะในวัดนั้น ทางคณะสงฆ์จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป

ล่าสุดเช้าวันนี้ หมอปลา พร้อมด้วยทนายความและคณะชาวบ้านในพื้นที่ ได้เดินทางมาถึงวัดก็ได้พบกับพระครูธีรศาส โดยได้ตั้งโต๊ะพูดคุยกันพร้อมกับมีการไลฟ์สดผ่านเพจ “หมอปลาช่วยด้วย” โดยทางหมอปลาได้ทำบุญยอด 1,800 บาท บอกว่าเป็นค่าป้ายไวนิล และคณะก็ได้ร่วมทำบุญเพิ่มด้วย จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันทางเจ้าอาวาสวัดก็ได้มีการยอมรับว่าเป็นคนสั่งทำป้ายจริง ขออภัยหมอปลาและทางญาติโยมด้วย ถือว่าทำความผิดก็ได้ทำการปลงอาบัติไปแล้ว แต่ตอนทำนั้นยืนยันว่าคิดน้อยไปหน่อย พอดีมีการส่งต่อภาพป้ายกันมาในไลน์ ตนก็เลยสั่งร้านทำว่าเอาป้ายแบบนี้ ยืนยันว่าข้อความทั้งหมดไม่ได้คิดเองดูจากหลักฐานในไลน์ได้ ยอมรับผิดว่าคิดน้อยไปหน่อย ไม่ทันได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา

ซึ่งจากนั้นพอจบเรื่องป้ายไวนิล ทีมข่าวก็ได้สอบถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะเกี่ยวกับเรื่องเจ้าอาวาสติดเหล้า ซึ่งเรื่องนี้ เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวก็ยอมรับว่าฉันเหล้าจริง แต่ไม่ได้ฉันบ่อย เฉพาะเวลาเครียดเท่านั้น และยอมรับว่าเพิ่งฉันไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหมูกระทะก็ยอมรับเช่นกันว่าเคยมีการโทรฯสั่งมาฉันและเลี้ยงพระลูกวัดภายในวัดจริง จากนั้นตัวแทนชาวบ้านที่มาสั่งเกตการณ์ก็ล้วนบอกว่า เจ้าอาวาสเคยทำแบบนี้มาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ชาวบ้านก็จับได้เรื่องฉันเหล้า เจ้าอาวาสก็ขอโอกาสมาแล้ว 1 ครั้ง แล้วก็มาทำอีก ส่วนครั้งนี้ชาวบ้านก็เห็นร่วมกันว่าจะไม่ขับไล่เจ้าอาวาส แต่จะให้เจ้าอาวาสพิจารณาตัวเองว่าสมควรที่จะอยู่ในสมณเพศครองผ้าเหลืองต่อไปหรือไม่

ต่อมาผู้ใหญ่บ้านได้มีการโฟนอินคุยกับเจ้าอาวาส ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่า หากเจ้าอาวาสทำผิดจริงและยอมรับความจริงก็ควรลาสิกขาไป ซึ่งตัวเจ้าอาวาสเองก็ยินดีรับข้อพิจารณานี้ ขอเวลาตัดสินใจเป็นเวลา 3 วัน เพื่อรอทำการไต่สวนลงมติจากคณะสงฆ์และสำนักพุทธฯ หลังจากนั้นตัวเจ้าอาวาสก็ได้ขอตัวไปพักผ่อน

ด้านตัวแทนชาวบ้านก็บอกว่าทางวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ในพื้นที่ ชาวบ้านรุ่นต่อรุ่นมาทำบุญที่นี่กันเรื่อยมา จนเมื่อ 3 ปีก่อน มาทราบเรื่องเจ้าอาวาสประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าอาวาสขอโอกาสญาติโยมอีกครั้ง ชาวบ้านก็ให้โอกาสแต่คนก็เริ่มห่างวัด มาทำบุญน้อยลง แล้วตอนนี้ก็ยังทำอีก และทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ถึงชาวบ้านจะไม่ขับไล่เพราะเห็นแก่เป็นพระที่บวชมานานถึง 35 ปี แต่ก็ให้ท่านไปพิจารณาตนเอง ว่าสมควรที่จะสึกแล้วหรือไม่ แต่หากท่านยืนยันไม่สึกจะใช้เพียงการปลงอาบัติเพียงอย่างเดียว ก็เกรงว่าชาวบ้านจากนี้คงไม่ศรัทธาและคงไม่เข้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้อีก

ล่าสุด มีรายงานว่า พระครูธีรศาสน์ กิจจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม ยินยอมสึกจากการเป็นพระ เนื่องจากรู้สึกผิดและทนกระแสสังคมไม่ไหว แต่ขอเวลาสัก 3 วัน.