เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ยื่นคำร้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทำความผิดฐานกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดย บุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ เพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือ ผู้ดูแลเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี เพื่อการอนาจาร พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้อำนาจ ครอบงำผิดคลองธรรมอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 วรรคแรก, 319, 283 ทวิ วรรคเเรก และมาตรา 284 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.อาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 เนื่องจากจะต้องสอบพยานจำนวน 3 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหามาประกอบสำนวน การสอบสวนเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรก มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 5-16 พ.ค.65

โดยพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 61 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี 2 เดือน ซึ่งเรียนจบ ม.6 ระหว่างรอเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อชั้นมหาวิทยาลัย ได้พบโฆษณาการอบรมโครงการ “โตแล้ว ไปไหน” โดยบริษัทเเห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลักสูตรในการอบรมหลายแผนกตามที่ใครจะสนใจ น.ส.เอ สนใจที่จะศึกษาแนวทางการทำงานเกี่ยวกับ “หลักทรัพย์และการลงทุน” จึงขออนุญาตบิดาและผู้ปกครองสมัครเข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าว เเล้วไปทำการเช่าห้องพักคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เขตราชเทวี หากต้องการไปไหนกับใคร ต้องขออนุญาตก่อนเสมอ ซึ่งหลักสูตรนี้ยังมีคนอื่นเข้าร่วมอบรมด้วย รวมเป็น 2 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 61 ได้ถูกส่งมาอบรมที่บริษัทหลักทรัพย์เเห่งหนึ่ง ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งมีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร จึงได้จัดให้มีนายปริญญ์เป็น “พี่ต้นแบบอาชีพ”

ต่อมาในวันที่ 25 เม.ย. 61 นายปริญญ์ ไปเป็นพิธีกรบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ จึงให้ น.ส.เอ และเพื่อนออกมาฝึกงานนอกสถานที่ โดยในวันดังกล่าว น.ส.เอ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กระโปรงสีดำขาสั้น จนเมื่อเสร็จงานเวลาประมาณ 15.00 น. นายปริญญ์ ได้ให้เพื่อนของ น.ส.เอ แยกกลับบ้านไป แล้วได้พูดชักชวนจะไปส่ง น.ส.เอ ที่คอนโดฯ ที่พักโดยรถยนต์ส่วนบุคคลคล้ายรถตู้สีดำ จำทะเบียนไม่ได้ แต่ น.ส.เอ ไม่ยินยอม นายปริญญ์ จึงอาสาจะไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก เนื่องจากเห็นว่าเป็น “พี่ต้นแบบอาชีพ” ที่มาฝึกอบรมอยู่และจะต้องเป็นผู้ประเมินการฝึกอบรม จึงยินยอมให้ไปส่ง นายปริญญ์ ได้พาไปขึ้นรถที่บริเวณหน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์ โดยในรถมีพนักงานขับรถ ประจำที่นั่งคนขับไม่มีกระจกกั้นระหว่างคนขับกับห้องผู้โดยสาร ซึ่งสามารถได้ยินการพูดคุยกันได้ชัดเจนหรือหากหันกลับมาดู ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ระหว่างที่ น.ส.เอ นั่งเบาะด้านหลังคนขับ ส่วนนายปริญญ์ นั่งคู่กับ น.ส.เอ เมื่อรถขับออกมาเข้าถนนรัชดาภิเษกแล้วกลับรถขับไปตามถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าด้านอโศก นายปริญญ์ ได้ชวนพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่าคนขับรถจะรู้เรื่องที่คุยกัน โดยสอบถามว่าเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือไม่ เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราว หรือความสัมพันธ์แบบคนเดียวหรือไม่ และพูดขอมีเพศสัมพันธ์ ออกอุบายชักชวนให้ไปทานข้าว ชวนไปดื่มแล้วจะไปเปิดห้องกันต่อ และทำการใช้มือมาจับแขนลูบแขนแล้ว จับบริเวณต้นขาลูบไล้ไปมา พร้อมทั้งโอบกอดและเอาใบหน้าเข้ามาใกล้หน้าของ น.ส.เอ พยายามหอมแก้มหลายครั้ง น.ส.เอ พยายามบ่ายเบี่ยง เอียงตัวหนีมาตลอดทาง ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาที่มีการจราจรติดขัด และเป็นถนนสาธารณะ มีรถยนต์วิ่งอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมองเข้ามาในรถและเห็นเหตุการณ์ได้ น.ส.เอ ต้องอยู่ในรถดังกล่าวกับนายปริญญ์ นานประมาณ 45 นาที เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก จึงขออนุญาตลงจากรถ หลังจากนั้น น.ส.เอ เกรงว่า หากไปฝึกอบรมอีก อาจจะเกิดอันตรายและจะถูกนายปริญญ์ ลวนลามหรือกระทำอนาจารทางเพศอีก เพราะเห็นว่านายปริญญามีเจตนาที่จะหาโอกาสเข้ามาใกล้ชิดตัวเองเพื่อทำอนาจาร หรือหากำไร และอาจถึงขั้นข่มขืนกระทำชำเราเมื่อมีโอกาส จึงไม่กล้าจะกลับไปฝึกอบรมอีก จึงโทรศัพท์ไปแจ้งถอนการฝึกอบรมกับบริษัท จนเมื่อประมาณวันที่ 14-15 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ น.ส.เอ อยู่บ้านกับบิดา พบว่ามีการนำเสนอข่าวของผู้เสียหายที่ถูกนายปริญญ์ กระทำอนาจารทางโทรทัศน์ น.ส.เอ จึงเล่าให้บิดาฟัง จากการกระทำดังกล่าวทำให้ น.ส.เอ ได้รับความอับอาย และหวาดกลัวในการที่จะต้องทำงานร่วมกับเพศชาย ได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด

เหตุเกิดที่ในรถยนต์ส่วนตัวจากบริเวณอาคารเลขที่ 93 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 61

ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง

ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่ สน.ห้วยขวาง ภายหลังศาลอาญาอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน 200,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล นายปริญญ์ พร้อมทีมทนายความ เดินทางกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด.