สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า นายวิลลี วอลช์ ผู้อำนวยการใหญ่ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) กล่าวว่า การฟื้นตัวของหน่วยงานภาคการบินในเอเชียค่อนข้างช้าอยู่แล้ว และเตือนว่าการปฏิบัติของรัฐบาลปักกิ่งยิ่งทำให้หมดหวังมากขึ้น เนื่องจากการล็อกดาวน์ การตรวจเชิงรุกในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ และมาตรการที่เข้มงวดอีกหลายอย่าง เพื่อยับยั้งโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั้งในและระหว่างประเทศ
“มันเป็น 2 ปี ที่โหดร้ายสำหรับสายการบิน แต่เราเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวแล้ว” เขากล่าวในการประชุมสุดยอดด้านการบินชางงี ที่สิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จะฟื้นตัวช้าลง เพราะจีนยังคงยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์
วิลลี ระบุว่า ในปี 2564 การเดินทางระหว่างประเทศของเอเชียอยู่เพียงแค่ 7% จากระดับเมื่อปี 2562 เทียบกับตัวเลขทั่วโลกที่ 25% แม้ภาพรวมจะดีขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่หนทางในการฟื้นตัวเต็มที่นั้น “ยังอีกยาวไกล”
ทั้งนี้ การตัดสินใจที่ยึดมั่นกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ทำให้จีนขัดแย้งกับหลายรัฐบาลของประเทศอื่นในเอเชีย ที่เริ่มกลับมาเปิดพรมแดน และลดการกักตัวและการตรวจหาเชื้อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
วอลช์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไออาตา เชื่อมั่นว่า หลักการทางวิทยาศาสตร์มีเหตุผลรองรับการยกเลิกตรวจหาเชื้อและกักตัวสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ในพื้นที่ที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ระดับสูง ซึ่งรวมไปถึงหลายส่วนของภูมิภาคนี้
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
