สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ว่า สำนักข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ( เอสวีอาร์ ) ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐ “มีการว่าจ้างอย่างสม่ำเสมอ” ให้นักรบอาสาและทหารต่างชาติ ตลอดจน “สมาชิกองค์กรก่อการร้ายระดับนานาชาติ” อีกหลายแห่ง โดยเฉพาะกลุ่มไอเอส ให้เข้าร่วมการสู้รบในสมรภูมิยูเครน สะท้อนว่า รัฐบาลวอชิงตัน “พร้อมทำทุกวิถีทาง” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการ “สร้างความเปลี่ยนแปลงด้านภูมิศาสตร์การเมือง” ในยูเครน


ทั้งนี้ รายงานของเอสวีอาร์ระบุว่า ฐานทัพ “อัน-ทาฟ” ของสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตอิทธิพลของกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ในจังหวัดฮอมส์ ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ และมีพรมแดนติดกับอิรักและจอร์แดน “เป็นฐานปฏิบัติการ” ที่ทหารอเมริกันในซีเรีย นำสมาชิกกลุ่มไอเอสและนักรบจีฮัดรวมกันประมาณ 500 คน “กลับมาฝึกฝนอย่างเป็นระบบ”

ภาพถ่ายมุมสูงจากโดรน เผยให้เห็นการอพยพทหารยูเครนที่ได้รับบาดเจ็บ ออกจากโรงงานถลุงเหล็ก อาซอฟสทาล ในเมืองมาริอูโปล


ด้านสหรัฐยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อรายงานดังกล่าวของเอสวีอาร์ ซึ่งเผยแพร่ออกมาในช่วงเวลาที่เมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ริมชายฝั่งทะเลอาซอฟ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน แทบเรียกได้ว่า อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย “อย่างเบ็ดเสร็จ” เมื่อกองทัพยูเครนมีคำสั่งให้ “ทหารและนักรบทั้งหมด” ภายในโรงงานถลุงเหล็กอาซอฟสทาล ซึ่งถูกปิดล้อมมานานประมาณ 2 เดือน “ยุติภารกิจเพื่อรักษาชีวิต” ที่หมายถึงการยอมจำนนต่อกองทัพรัสเซีย

นักรบสนับสนุนของกองทัพรัสเซียตรวจค้นทหารยูเครน ที่ต้องการออกจากโรงงานถลุงเหล็ก อาซอฟสทาล ในเมืองมาริอูโปล


ขณะที่ข้อมูลจากสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียระบุว่า ทหารยูเครนและสมาชิกกองพันอาซอฟ ซึ่งมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย ยอมจำนนรวมกันแล้วมากกว่า 250 คน โดยทุกคนจะถูกสอบปากคำ และมีสถานะเชลยศึก แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ยังเหลือผู้ที่อยู่ภายในโรงงานแห่งนี้อีกกี่คน และเป็นใครบ้าง.

เครดิตภาพ : REUTERS