เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกระแสดราม่าในโซเชียลเกี่ยวกับกลุ่มนักปั่นจักรยานและคนเดินที่สวนเบญจกิติ ว่า สวนเบญจกิติมีทั้งคนเดินคนวิ่ง และจักรยาน ซึ่งเมื่อก่อนอยู่สวนนอกของพื้นที่ยาสูบซึ่งปั่นเร็วมาก เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นเยอะ ตรงนั้นจะมีจุดตัดระหว่างคนเดินกับคนขี่จักรยาน ทั้งนี้ ดราม่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตรงดูให้ละเอียด เพราะไม่ใช่ความเห็นของคนส่วนใหญ่ อาจเป็นความเห็นของคนบางกลุ่ม เพราะฉะนั้น อย่าไปเหมารวมว่าคนขี่จักรยานจะเห็นอย่างนี้ทุกคน และอย่าเอามาเป็นประเด็นใหญ่ เดี๋ยวมาคุยกัน ถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน ตนคิดว่าส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันได้ ตนไปวิ่งสวนเบญจกิติเป็นร้อยหนก็อยู่ด้วยกันได้ อาจจะมีแค่คนบางกลุ่มที่ค่อนข้างมีความเห็นไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือเราอย่าไปขยายความแตกต่างตรงนี้ แต่ควรหาจุดร่วม และเชื่อว่าจุดร่วมส่วนใหญ่ของคนจักรยานและคนวิ่งอยู่ด้วยกันได้ เช่น ชะลอความเร็วลง แต่หากเราเอาจุดต่างเล็กๆ มาขยายสังคมจะแตกแยกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตนจะลงไปดูปัญหานี้ คิดว่าแก้ได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าอยากซิ่งมีที่ซิ่งเยอะ ที่ความสำคัญคือเรื่องความปลอดภัย เพราะต้องอยู่ร่วมกัน 

สำหรับประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพจ “สวนเบญจกิติ” เปิดเผยภาพบริเวณจุดลานจอดจักรยาน ซึ่งมีกลุ่มนักปั่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพูดคุยทำความเข้าใจกัน โดยทางเพจระบุว่า “วันนี้ทางสวนฯ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับให้กลุ่มผู้ปั่นจักรยานเร็วจนทำให้ผู้ใช้บริการที่ต้องใช้วีลแชร์ รถเข็นเด็ก และประชาชนที่เดินชมสวน เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุและร้องเรียนมา ซึ่งทางสวนได้เข้าไปเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจในกติกาในการใช้ทางจักรยานร่วมกับผู้อื่นในสวนที่มีจุดตัดคนข้ามถนนมากกว่า 30 จุดนี้

แต่นี่คือคำถามจากกลุ่มจักรยานฯ

1. ทำไมต้องให้ความสำคัญคนเดินเท้ามากกว่าจักรยาน?

2. ทางจักยานโล่งๆ จะมาปั่นช้าๆ ได้อย่างไร?

3. ทำไมไม่ย้ายคนให้ไปเดินที่สุวรรณภูมิ เพราะเขาอยากปั่นเร็วที่นี่?

อยากชวนมาช่วยแสดงความเห็นว่าจะแก้ปัญหากลุ่มบุคคลนี้อย่างไรดี?”

ทั้งนี้ มีประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย และไม่เห็นด้วยความคำถามของกลุ่มจักรยาน จนเกิดเป็นกระแสดราม่าในโซเชียล