สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่าธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เผยแพร่รายงาน การคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ว่าอาจลดลงมาอยู่ที่ 2.9% ในปีนี้ ลดลงอย่างมากจาก 5.7% เมื่อปีที่แล้ว และลดลง 1.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยหากความเสี่ยงดังกล่าวเกิดผลในเชิงรูปธรรม ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวประชากร จะเหลือศูนย์


ทั้งนี้ อุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ยังคงเกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการที่จีนล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายแห่งเพื่อควบคุมโควิด-19 โดยเฉพาะนครเซี่ยงไฮ้ เวิลด์แบงก์มองว่าทั้งสองปัจจัยส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างมาก และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะ Stagflation ที่หมายถึง เศรษฐกิจชะลอตัวสวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งทะยาน และเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อนานกว่า 4 ทศวรรษที่แล้ว


เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว เวิลด์แบงก์เสนอการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน ยกระดับความร่วมมือด้านการผลิตอาหารและพลังงาน พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการตั้งข้อจำกัดการส่งออกและนำเข้า ที่อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน.

เครดิตภาพ : REUTERS