เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการนำรถดับเพลิง 139 คัน ที่ กทม.ได้ทำสัญญาซื้อรถดับเพลิงและอุปกรณ์กับบริษัท สไตเออร์-เดมเลอร์-พุค สเปเชียล ฟาห์รซอย เอจี แอนด์ โค เคอี เมื่อวันที่ 25 ส.ค.47และจอดไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง A5 ของบริษัทนามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) จ.ชลบุรี ว่ายังไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมด คงต้องไปดูว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สำนักกฎหมายและคดี เพราะเป็นเรื่องที่ค้างมานาน แต่จะรีบดำเนินการ

ทางด้านนายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) เปิดเผยว่า รถดับเพลิงดังกล่าวถูกขึ้นทะเบียนเป็นยุทธภัณฑ์และได้รับยกเว้นค่าภาษีอากรตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 51/2559 ลงวันที่ 25 ส.ค.59 และ กทม. ได้ปฏิบัติพิธีการทางศุลกากรจนได้รับใบขนสินค้าพร้อมแบบแสดงรายการภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มรถดับเพลิงจำนวน 139 คัน เรียบร้อยแล้ว และได้แจ้งบริษัท นามยงฯ เพื่อขอรับรถดับเพลิงดังกล่าวมาไว้ใช้ในราชการ แต่บริษัท นามยงๆ ยึดหน่วง ไม่ส่งมอบรถดับเพลิงให้ กทม. และบริษัท นามยงฯ ได้เป็นโจทก์ฟ้อง กทม.เป็นจำเลย ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ กค 136/2560 เรียกให้ กทม.ชำระค่าฝากสินค้ารถดับเพลิง 139 คัน จำนวนเงิน 1,040,809,382 บาท พร้อมดอกเบี้ย และชำระค่าฝากสินค้าและค่าภาษีมูลค่าเพิ่มอีกวันละ 272,817.90 บาท

ขณะเดียวกัน กทม. ได้ประมาณการค่าซ่อมแซมรถดับเพลิงดังกล่าว เนื่องจากมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ในราคาต่ำสุด ณ เดือน ก.ย.64 เป็นจำนวนเงิน 517,328,950 บาท อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ยื่นฟ้องศาลขอคุ้มครองชั่วคราว โดยขอนำรถดับเพลิงทั้งหมดออกมาซ่อมแซม เพื่อใช้บรรเทาสาธารณภัยดูแลพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ ขณะนี้ศาลอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเดือน มี.ค.61 สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. กทม.ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท นามยงฯ กว่า 2,000 ล้านบาท กรณี กทม.ไม่สามารถนำทรัพย์สินหรือรถดับเพลิง 139 คัน ออกมาใช้งานได้ ส่งผลกระทบต่องานบรรเทาสาธารณภัย สร้างความเสียหายต่อประชาชน สำหรับรถดับเพลิง 139 คัน ที่จอดไว้ท่าเรือแหลมฉบัง แบ่งเป็นรถดับเพลิงบรรทุกน้ำขนาด 2,000 ลิตร 67 คัน และรถบรรทุกน้ำขนาด 10,000 ลิตร จำนวน 72 คัน