ศึกมวยชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) ระหว่าง เจสซี “แบม” โรดริเกซ เจ้าของแชมป์โลกชาวอเมริกัน กับ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ผู้ท้าชิงชาวไทย อดีตเจ้าของเข็มขัดเส้นนี้ 2 สมัย โดยทั้งคู่จะขึ้นฟาดปากกันในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ ตามเวลาท้องถิ่น ที่เวทีในเท็ค พอร์ต อารีนา เมืองซานอันโตนิโอ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย. ตามเวลาเมืองไทย สถานีโทรทัศน์ช่อง 32 ยิงสดเวลา 09.30 น. เป็นต้นไป

สำหรับ เจสซี โรดริเกซ หรือเจ้า “แบม” มีชื่อเต็ม ๆ ว่า เจสซี เจมส์ โรดริเกซ ฟรังโก เป็นนักชกดาวรุ่งชาวอเมริกัน เชื้อสายเม็กซิกัน เกิดเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2000 เวลานี้เพิ่งอายุแค่ 22 ปี และปัจจุบันครองตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) และเขาคือน้องชายแท้ ๆ ของ โจชัว ฟรังโก แชมป์โลกรุ่นเดียวกันของสมาคมมวยโลก (WBA) คนปัจจุบัน โดยเจ้าตัวเทิร์นโปรชกมวยสากลอาชีพในเดือนมีนาคมปี 2017 ด้วยวัยแค่ 17 ปี

บนสังเวียนมวยอาชีพ “แบม” สะกดคำว่าเสมอหรือแพ้ไม่เป็น จนกระทั่งถึงไฟต์ที่ 15 เขามีโปรแกรมจะขึ้นชกเป็นคู่รองในศึกระหว่าง ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น กับ คาร์ลอส คูเอดราส ที่ฟีนิกซ์ อริโซนา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยก่อนการชกไฟต์ดังกล่าว เอ็ดดี เฮิร์น บอสใหญ่ของ แมตช์รูม บ็อกซิ่ง ยอดโปรโมชั่นมวยเบอร์ 1 ของโลกเวลานี้ ซึ่งได้ซุ่มดูฝีมือของนักชกดาวรุ่งรายนี้มาพักใหญ่ ตัดสินใจเซ็นสัญญาดึงตัว “แบม” เข้าสังกัด

และทันทีที่ “เจ้าแหลม” ถอนตัวเพราะมีอาการป่วยก่อนชกไม่กี่วัน โอกาสจึงตกมาถึงมือของ “แบม” ที่ถูกเรียกให้ข้ามทีเดียว 2 รุ่นขึ้นชกกับ คูเอดราส แทน ชนิดรู้ตัวล่วงหน้าไม่กี่วัน และแม้จะเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ “แบม” กลับโชว์ฝีมือจ้วง คูเอดราส ลงไปให้กรรมการนับในยกที่ 3 ก่อนเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ คว้าเข็มขัดแชมป์โลก 115 ปอนด์ของ ดับเบิลยูบีซี มาครองอย่างไม่คาดฝัน และนั่นทำให้เขากลายเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาแชมป์โลกปัจจุบัน และเป็นแชมป์โลกคนแรกที่เกิดในยุค 2000 อีกด้วย

ด้าน “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ มีชื่อจริงว่า ส.ต.ต.วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก ครองแชมป์โลกซูเปอร์ฟลายเวต WBC สมัยแรก ด้วยการเอาชนะ โยตะ ซาโตะ นักชกชาวญี่ปุ่น ยก 8 ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2013 ป้องกันแชมป์ได้ 1 ครั้ง ก่อนเสียให้กับ คาร์ลอส คูเอดราส หลังเกิดอุบัติเหตุหัวชนจนนักชกเม็กซิกันมีแผลแตก ก่อนรวมคะแนนและเป็น คูเอดราส เอาชนะไป ในการชกที่เม็กซิโก เมื่อปี 2014

หลังจากนั้น ศรีสะเกษ ต้องรออีกถึง 3 ปี ก่อนจะมีโอกาสบินไปชิงเข็มขัดเส้นเดิมกับ “ช็อกโกลาติโต” โรมัน กอนซาเลซ ยอดมวยชาวนิการากัว ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อ 18 มี.ค. 2017 ก่อนที่ “เจ้าแหลม” จะพลิกล็อกเอาชนะคะแนน คว้าแชมป์โลกมาครองเป็นสมัยที่ 2 แถมยังตอกย้ำความยิ่งใหญ่ด้วยการบุกทุบ กอนซาเลซ ถึงน็อกในยก 4 ในไฟต์แก้มือที่ลอสแอนเจลิส เมื่อ 9 ก.ย. 2019

หลังจากนั้น ศรีสะเกษ บินไปป้องกันแชมป์กับ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา นักชกจังโก้ ก่อนเอาชนะคะแนน ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 หลังจากนั้นกลับมาป้องกันแชมป์ในเมืองไทย 1 ไฟต์ ชนะคะแนน อิราน ดิอาซ ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ก่อนจะบินไปเสียแชมป์ให้กับ เอสตราดา คู่ปรับเก่า ด้วยการพ่ายคะแนน เมื่อเดือนเมษายน 2019 และต้องรออีกถึง 2 ปี ก่อนจะมีโอกาสได้ทวงเข็มขัดเส้นเดิมจาก โรดริเกซ ในไฟต์นี้

ส่วนอัตราต่อรองมวยคู่นี้ล่าสุด ปรากฏว่า กลับมาให้ “แบม” เป็นต่อ โดยอ้างจากบ่อนถูกกฎหมายในลาสเวกัส ราคาแทง “แบม” -400 นั่นคือแทง “แบม” ชนะ 400 ดอลลาร์สหรัฐ ได้เพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนราคา “แหลม” อยู่ที่ +300 คือแทง “แหลม” ชนะ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าแทงถูก

สำหรับ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น วัย 35 ปี สูง 160 ซม. เป็นมวยซ้าย สถิติการกชก ชนะ 50 (น็อก 43) แพ้ 5 เสมอ 1 เปอร์เซ็นต์การชนะน็อก 76.79% ส่วน เจสซี แบม โรดริเกซ มวยซ้ายเช่นกัน สูง 163 ซม. ชนะ รวด 15 ครั้ง (น็อก 10) ไม่เคยแพ้ใคร เปอร์เซ็นต์การชนะน็อก 66.67% แต่แทบทั้งหมดเป็นการชกในน้ำหนัก 110-112 ปอนด์ มีขยับมาชกรุ่น 115 ปอนด์ เพียงไฟต์ที่ชนะคะแนน คูเอดราส เท่านั้น โดยล่าสุดทั้งคู่ผ่านการชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการ โดยชั่งได้ 114.6 ปอนด์เท่ากัน