กรณี นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร และผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 โพสต์ข้อความลงในบัญชีเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีผู้ต้องขังการเมืองxxx ฆ่าตัวตายในคุก 2 เคส โดยการกินยาพารา กับ กรีดข้อมือ พร้อมร้องขอให้ทางราชทัณฑ์แถลงข้อเท็จจริง ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘ทนายอานนท์’ แจ้ง 2 ผู้ต้องขังการเมือง พยายามคิดสั้น จี้ขอข้อเท็จจริง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเย็นวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เบื้องต้นยืนยันและชี้แจง ว่า เป็นเรื่องจริง โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ต้องขังการเมือง ที่ถูกส่งเข้ามา 11 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างถูกกักโรคไว้ก่อน 10 วัน พอผ่านกระบวนการแล้วก็จะมีนักจิตวิทยาเข้าไปดูแล ซึ่งทีเเรกดูเหมือนปรับตัวได้ แต่วันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. ช่วง 21.00-22.00 น. ได้รับรายงานจากพัศดีว่ามีผู้ต้องขังหนึ่งรายได้ทานยาเกินขนาด พยาบาลเรือนจำและตนจึงเข้าไปดู พบผู้ต้องขังรายหนึ่ง อายุ 21 ปี บอกว่าทานยาพาราเข้าไปไปหลายเม็ด โดยยาที่นำมาจำนวนมาก เจ้าตัวอ้างว่าเป็นยาที่ทางเรือนจำแจกแล้วขอจากเพื่อนๆที่ถูกจับมารวมกัน

นายนัสที กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้กินยาจำนวนมากนั้น ผู้ต้องขังระบุว่า มีความเครียดเนื่องจากคิดถึงภรรยาและลูก ซึ่งภรรยากำลังตั้งครรภ์อยู่ ตนจึงแนะนำไปว่าการแก้ปัญหาโดยวิธีการนี้ไม่ถูกต้อง ต้องรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจตัวเองให้แข็งแรงไว้ ทั้งนี้เมื่อตนได้พูดคุยด้วยความห่วงใยแล้ว จึงมอบหมายให้พัศดีส่งตัวผู้ต้องขังรายนี้ไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้แพทย์รักษาไปตามระบบขั้นตอน ส่วนอาการล่าสุดได้พูดคุยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าปกติดีแล้ว

นายนัสที กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องขังอีก 2 ราย ที่อ้างว่ามีการกรีดมือนั้น ก็ก่อเหตุวันเดียวกันคือวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. โดยทั้งคู่ใช้อุปกรณ์เหมือนเศษโลหะเล็กๆขูดที่ข้อมือตัวเองไม่ถึงขั้นกรีดข้อมืออย่างที่กล่าว โดยลักษณะแผลมีเลือดซึม จึงให้พยาบาลขึ้นไปดู และสอบถาม รับทราบว่าทั้งคู่มีความเครียด เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว จึงแนะนำว่าวิธีการดังกล่าวมันไม่ได้ผล ซึ่งจะต้องไปยื่นที่ศาล ชี้แจงให้ศาลเห็นเพื่อพิจารณาให้ประกันตัวชั่วคราวตามขั้นตอน ทั้งนี้ตนได้ให้นักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขังทั้งสองรายนี้ และให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลด้วย รวมถึงจะมีการติดต่อญาติให้เข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขังทั้งสองรายอีกครั้ง

ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า ล่าสุดวันนี้ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขัง เนื่องจากครบกักโรค 10 วันพอดี จึงมีการย้ายผู้ต้องขังทั้งหมดจากแดน 2 ไปอยู่แดน 4 ซึ่งจะมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักบำบัด เข้าไปพูดคุยจนทั้งหมดหายเครียดไปแล้ว และปลอดภัยดี ส่วนผู้ต้องขังที่ทานยาพารา เกินขนาดนั้น ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากแพทย์กังวลเรื่องตับ ต้องดูแลอีกสักระยะเพื่อดูว่ากระทบต่อตับหรือไม่ต่อไป