สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ว่าประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปีเญรา แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและบุคลากรการแพทย์ของชิลีมีมติเห็นชอบ เตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สาม หรือบูสเตอร์ ให้แก่ประชาชนอายุตั้งแต่ 55 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนของซิโนแวคครบก่อนวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยวัคซีนที่จะฉีดให้เป็นเข็มที่สาม คือวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.นี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของชิลีเกิดขึ้น หลังกระทรวงสาธารณสุขของชิลีเผยแพร่รายงานในสัปดาห์นี้ ว่าประสิทธิภาพด้านการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการของวัคซีน "โคโรนาแวค" ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยซิโนแวค ลดลงจาก 67% ในการรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนก. พ.-เม.ย.ที่ผ่านมา ลงมาอยู่ที่ 58.5% ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นมา แต่ยังสูงกว่าเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ซึ่งกำหนดไว้ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินที่ขั้นต่ำ 50%
ขณะเดียวกัน รัฐบาลชิลีและซิโนแวคบรรลุข้อตกลง เตรียมเปิดโรงงานบรรจุและปิดผนึกวัคซีนหลายชนิด ตั้งอยู่ในเขตภูมิภาคซันติอาโกซึ่งเป็นเมืองหลวงของชิลี ที่ซิโนแวคจะลงทุน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1,997.07 ล้านบาท ) และคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า นอกจากนี้ ซิโนแวคมีแผนก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา ที่เมืองอันโตฟากัสตา ทางตอนเหนือของชิลีด้วย.

เครดิตภาพ : AP