เมื่อเวลา 10.17 น. วันที่ 28 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2565 ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ครั้นสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ตามลำดับ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ข้าพเจ้ามีความชื่นชมและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน มาให้พรวันเกิดแก่ข้าพเจ้า ในวาระนี้ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ในคำอำนวยพร อันเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีของทุกท่าน ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรี ด้วยใจจริงเช่นกัน ความปรารถนาดี ที่จะให้เกิดความสุขความสวัสดี แก่ข้าพเจ้านั้นจะสำเร็จได้ ก็ด้วยความพร้อมเพรียง และความสามารถของทุกท่าน ที่จะร่วมมือกันปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ ให้บรรลุผลสมบูรณ์ เพื่อประเทศชาติและประชาชน

ทุกวันนี้เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งในและนอกประเทศ ได้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพ ตลอดจนความมั่นคง ของชีวิตและการงาน ของประชาชนทุกคนเป็นอย่างมาก จำเป็นที่ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องทำความคิดจิตใจให้หนักแน่น ยึดมั่นในเหตุผลที่ถูกต้อง และประโยชน์สุขของส่วนรวมแล้วมุ่งมั่นปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความสมัครสมานสามัคคี ให้ก้าวหน้าไปได้ทันกับสภาวะของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมแห่งนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคน มีขวัญและกำลังใจที่ดีอยู่เสมอ รวมทั้งรักษาความดี ความสามัคคี ความสุจริต ไว้ให้มั่นคงหนักแน่น ความสุขและความสวัสดีก็จะเกิดมีขึ้น ทั้งแก่ประเทศชาติและประชาชนพร้อมทุกส่วน ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา จงคุ้มครองรักษาทุก ๆ ท่าน ให้มีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน”