ศึกชิงโล่การกุศล “คอมมิวนิตี ชิลด์” ที่สนามคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์พรีเมียร์ลีก มีคิวลงสนามดวลเกือก ลิเวอร์พูล แชมป์ เอฟเอ คัพ

ครึ่งแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่สร้างสรรค์เกมรุกได้ดีกว่า และออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เทรนต์-อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปั่นโค้งบริเวณหน้าปรอบเขตโทษไปแฉลบศีรษะของ นาธาน อาเก กองหลัง แมนฯ ซิตี เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 21

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี เริ่มทำเกมได้ดีขึ้น และตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้จากการซ้ำดาบสองของ ฮูเลียน อัลวาเรซ ดาวยิงตัวใหม่ ในนาทีที่ 70

กระทั่งนาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล จึงมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ดาร์วิน นูนเญซ โขกบอลไปโดนแขนของ รูเบน ดิอาส และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดกลายส่งให้ “หงส์แดง” แซงขึ้นนำ 2-1

จากนั้นในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+ 4 นูนเญซ จึงมาโขกประตูตอกฝาโลงให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยไปอย่างเด็ดขาด 3-1 คว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 16 และเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2006 หรือ ตั้งแต่ 16 ปีก่อนเลยทีเดียว.

ภาพ REUTERS