ถือเป็นปีที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ ปี 2565 ด้วยจำนวนผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่มีอยู่ราว 12 ล้านคนทั่วประเทศ ส่งผลให้ภาคส่วนต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับตัว เพื่อให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ “N Health” ผู้นำธุรกิจตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ และการสนับสนุนทางการแพทย์ ในเครือ BDMS เล็งเห็นถึงความสำคัญที่การบริการทางด้านสุขภาพ จะต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องไปกับบริบทของสังคมด้วยเช่นกัน จึงริเริ่มนำร่องบริการ “Mobile Wellness” ขึ้นมากว่าหนึ่งปี เป็นบริการส่งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการแพทย์และพยาบาลเก็บตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งต่าง ๆ ถึงที่บ้าน เพื่อนำมาทำการตรวจวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการ มอบความสะดวกแก่ทั้งผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตลอดจนผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล

นายสุนทร โคตะกา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) กล่าวว่า “ตลอดหนึ่งปีที่เรานำร่องบริการ Mobile Wellness ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันเราให้บริการครอบคลุมในกรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ และเรากำลังอยู่ในระหว่างนำร่องให้บริการในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เน้นในจังหวัดที่มีห้องปฏิบัติการของ N Health ซึ่งครอบคลุมอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ค่อย ๆ ขยายขอบเขตการให้บริการให้กว้างขึ้น ตามศักยภาพของแต่ละศูนย์”

Mobile Wellness ถือเป็นการริเริ่มที่มีความสำคัญต่อภารกิจของ N Health ในการให้การสนับสนุนทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีส่วนช่วยลดภาระของผู้ดูแลในการที่จะต้องนำผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไปตรวจวิเคราะห์ยังศูนย์ต่าง ๆ และส่งเสริมการทำหน้าที่วินิจฉัยโรคของแพทย์ให้เกิดความคล่องตัว นอกจากนี้ยังเป็นข้อต่อสำคัญสำหรับบริการโทรเวชกรรม หรือ Telemedicine ของสถานพยาบาลต่าง ๆ

”การบริการที่ได้การตอบรับมากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาคือการตรวจ RT-PCR COVID-19 ซึ่งพบว่าเคสส่วนใหญ่เป็นในลักษณะที่มีคนในครอบครัวของผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มีความเสี่ยงติดเชื้อหรือติดเชื้อโควิด-19 และจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ อัมพาต หรืออยู่สภาวะที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสามารถรับมือได้ทันท่วงทีหากเกิดการติดเชื้อ

นอกจากนี้การตรวจเลือด เพื่อติดตามการรักษาโรค NCDs ก็เป็นบริการที่มีเรียกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มโรคที่จำเป็นต้องมีการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ และถือเป็นกลุ่มโรคที่คนไทยกำลังเจ็บป่วยอยู่เป็นอันดับต้น ๆ”

บริการ Mobile Wellness นี้ สามารถใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบสำหรับผู้ที่รักษาในเครือโรงพยาบาลเปาโล แต่อย่างไรก็ตามบริการนี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้การดูแลรักษามีประสิทธิภาพอย่างไร้รอยต่อได้ โดยไม่จำกัดสังกัดหรือสถานพยาบาล..