พันธุ์มะละกอที่เป็นฐานพันธุกรรมซึ่งนำมาปรับปรุงพันธุ์เป็นพันธุ์ขอนแก่น 80 นี้ได้มาจากมะละกอ 2 พันธุ์ คือ Florida Tolerant เป็นมะละกอที่มีดอกตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละต้น มีผลขนาดเล็กกลม น้ำหนัก 400-700 กรัม เมื่อสุกมีสีเหลืองส้ม ผลสุกเก็บเกี่ยวได้ภายใน 5-6 เดือน มีความทนทานต่อโรคจุดวงแหวนดีมาก และพันธุ์แขกดำศรีสะเกษ เป็นมะละกอที่ปลูกแพร่หลายในประเทศไทย คนไทยคุ้นเคยนิยมรับประทานทั้งผลดิบและผลสุก เป็นพันธุ์ที่มีทั้งต้น ที่เป็นเพศผู้ต้นเพศเมีย และต้นสมบูรณ์เพศ (กะเทย) โดยต้นกะเทยให้ผลยาวเรียว เป็นผลขนาดกลาง 1-1.3 กก. ผลดิบเนื้อแน่นกรอบ ผลสุกมีเนื้อสีแดงส้ม

ลักษณะเด่นมะละกอ “ขอนแก่น 80” ผลการศึกษาศักยภาพการปลูกมะละกอขอนแก่น 80 พบว่า มีการเจริญเติบโตทั่วไปดีและสม่ำเสมอ ดอกแรกบานเมื่ออายุ 74 วัน และติดผลแรกเมื่ออายุ 81 วัน ความสูงเมื่ออายุ 7 เดือน เฉลี่ย 132 ซม. ผลแรกเริ่มสุก เมื่ออายุ 7 เดือน หลังย้ายปลูก (ซึ่งมะละกอสายพันธุ์อื่นจะให้ผลผลิตเมื่ออายุ 9-10 เดือน) มีรูปร่างผลสม่ำเสมอเป็นรูปรี ส่วนหัวเล็กก้นปล่อง น้ำหนักผลเฉลี่ย 700 กรัมโดยประมาณ ผลสุกเนื้อสีแดงส้ม รสชาติหวานหอม อร่อยมากและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ความหวานเฉลี่ย 13-14 องศาบริกซ์ ผลผลิตเฉลี่ย 6,000 กก./ไร่ หรือ 6 ตัน/ไร่

มีความทนทานต่อโรคจุดวงแหวนดี คือ แสดงอาการเหลืองด่างที่ใบ แต่ไม่มีอาการที่ผล นอกจากนี้ ผลมีผิวเป็นมัน เปลือกหนา จึงทนทานต่อการขนส่งได้ดี เนื้อแน่น และหลังการเก็บเกี่ยวสุกช้ากว่าพันธุ์แขกดำศรีสะเกษ ผลมีขนาดเล็ก เหมาะที่จะผ่าและใช้ช้อนตักรับประทานเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดีมาก มีศักยภาพที่จะเป็นพันธุ์แนะนำและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้าทางเลือกหนึ่งได้ จากการทดสอบพบว่า สายพันธุ์ ขอนแก่น 80 มีคุณภาพดีเด่นกว่าพันธุ์แขกดำศรีสะเกษ ในกรณีของการบริโภคสุก จะว่าไปแล้วมะละกอ “ขอนแก่น 80” เมื่อบริโภคสุก มีรสชาติหวานหอมและอร่อยกว่าพันธุ์ฮอลแลนด์ด้วยซ้ำไป แต่เป็นพันธุ์ที่มีผลขนาดกลาง และปัจจุบันทั้งคนไทยและต่างประเทศนิยมรับประทานมะละกอสุกผลเล็ก เนื้อสีแดง ดังนั้น มะละกอสายพันธุ์ ขอนแก่น 80 ที่มีความดีเด่นในแง่ความหวานและขนาดของผลที่เล็กกว่า อาจใช้เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับบริโภคสุก สมควรใช้เป็นพันธุ์แนะนำแก่เกษตรกรปลูกเป็นการค้าขายในประเทศและเพื่อการส่งออกในอนาคต

การเตรียมต้นกล้า สามารถเพาะเมล็ดลงในถุงโดยตรง โดยเตรียมดินผสมให้ร่วนซุยอัตราส่วนดิน 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน หยอดเมล็ดมะละกอถุงละ 3 เมล็ด ลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่มทุกวันเมล็ดจะงอกหลังเพาะประมาณ 10-14 วัน ควรฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น แมนโคเซบและสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง เช่น เซฟวิน-85 โดยผสมสารจับใบ เมื่อตู้กล้าเริ่มงอก และหลังจากนั้นทุก 10 วัน จนอายุได้ 45-60 วัน จึงย้ายลงปลูกลงแปลง