เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานนงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณา ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 15 ส.ค. พรรค พท.จะดำเนินการอย่างไรว่า พรรค พท.จำนวนหนึ่งจะเดินทางไปร่วมประชุมแต่ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมให้กับการพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อีกส่วนหนึ่งจะลาประชุม โดยพรรค พท.แสดงเจตนารมณ์มาตั้งแต่ต้นว่า หากจะหาร ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย 500 จะไม่ร่วมประชุมด้วย ซึ่งเราแสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่ต้น

นายสมคิด กล่าวว่า การที่องค์ประชุมจะล้มหรือไม่ไม่ได้ขึ้นกับพรรค พท. ดังนั้นสมาชิกรัฐสภาที่เหลือ 500 กว่าเสียง ก็ไปตัดสินใจเอา ถ้าเสียงส่วนมากว่าอย่างไรก็ไปอย่างนั้น แล้วที่กล่าวหาว่าเราทำให้สภาล้ม หรือเป็นพวกไม่รับผิดชอบต่อการประชุมนั้น ขอเรียนว่า เราเป็นเสียงข้างน้อย จึงมีช่องทางเดียวที่ต่อสู่ในระบบรัฐสภา เพราะเราอธิบายมาตลอดว่า จะไม่ร่วมออกกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและหลักการของรัฐสภา ขอให้ประชาชนเข้าใจการทำหน้าที่ของเราว่าทำตามช่องทางที่เปิดไว้ เราไม่ได้เกเรอะไร

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวเกิดการต่อรองในซีกรัฐบาลเพื่อให้การหาร 500 ผ่านไปได้ พรรค พท.เตรียมรับมือเรื่องนี้อย่างไร นายสมคิด กล่าวว่า เราไม่เตรียมรับมือถ้าจะกลับไปกลับมาก็สุดแท้แต่เสียงข้างมาก ประชาชนเขาดูอยู่ว่าพวกคนทำอะไรกัน

นอกจากนี้นายสมคิด กล่าวถึงกรณีที่นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า บันทึกการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 ที่มีการเผยแพร่ในช่วงนี้เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นเพียงความเห็น ไม่ใช่มติที่ประชุมว่า เท่าที่ตนไปดูบันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่กันนั้น มีผู้เสนอความคิดเรื่องนี้คือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ให้นับวาระนายกรัฐมนตรี 8 ปีตั้งแต่มีการดำรงตำแหน่ง

ทั้งนี้ไม่มีใครแสดงความเห็นเพิ่มเติมทักท้วงอะไร ถือว่าที่ประชุมเห็นด้วย จากนั้น 1 สัปดาห์ มีการรับรองรานงานการประชุมถูกต้อง จึงถือว่านี้คือเจตนารมณ์ของคณะร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ อย่าให้ความเป็นนักวิชาการเสียหายเลย ขอให้พูดตรงตามข้อเท็จจริง ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไรนั้นให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง.