จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของ คุณตาวัย 80 ปี ช่างตัดผมชายและภรรยาวัย 62 ปี ได้รับผลกระทบจากภาครัฐประกาศเคอร์ฟิว จำใจปิดร้านตัดผมเพื่อป้องกันพิษโควิด-19 เวลาผ่านไปหลายวัน ปรากฏว่า ไม่มีรายได้อะไร ภาครัฐก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ สุดท้ายต้องกินข้าวต้มผสมน้ำตาลทรายประทังชีวิตให้อยู่รอด ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี เขต 5 (อำเภอศรีราชา) จ.ชลบุรี ได้ให้ความช่วยเหลือช่างตัดผมผู้สูงวัยแล้ว โดยลงพื้นนำถุงยังชีพไปมอบให้ยังห้องเช่า บริเวณถนนภายในซอยวัดจีนตัดออกถนนสายหนองยายบู่ หมู่ที่ 7 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบนายประเสริฐ เมืองราช อายุ 80 ปี เป็นเจ้าของร้านตัดผมอาศัยอยู่กับ นางสุทัศน์ ใจคำ อายุ 62 ปี ภรรยา เพียงลำพังกันสองคน โดยเช่าห้องขนาด 4 คูณ 4 เมตร แบ่งครึ่งเปิดเป็นร้านตัดผมชาย ส่วนอีกครึ่งห้องเป็นที่นอนของทั้งสองคน ด้านหลังเป็นห้องน้ำและห้องครัวเล็ก ๆ ไว้ใช้เป็นห้องครัวประกอบอาหาร

ภายหลัง นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องราวที่ปรากฏในโซเชียลนั้นเป็นเรื่องจริง ตนต้องยอมปิดร้านตามคำสั่งภาครัฐ มิเช่นนั้นก็จะถูกจับกุม หากติดคุกก็จะไม่มีใครดูแลภรรยาที่อายุมากแล้ว หลังปิดร้านเงินที่ใช้ก็หมดไปเรื่อยๆ จนในที่สุดตนเองต้องหุงข้าวผสมน้ำร้อนให้เป็นข้าวต้ม แล้วใส่น้ำตาลที่เจ้าของหอพักเอามาให้ใส่ไปในข้าวต้มเพื่อให้มีรสชาติ ตนและภรรยากินข้าวคลุกน้ำทรายมา 3 วันแล้ว ตอนนี้ท้องเสียต้องหยุดกินก่อน แต่ก็เปลี่ยนมาใส่เกลือกินแทน ต้องขอขอบคุณท่าน ส.ส.ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ รวมไปถึงเจ้าของหอพักที่ไม่ได้เก็บค่าเช่าและยังนำอาหารมาให้กินบ้าง ตอนนี้ได้แต่วิงวอนขอให้รัฐผ่อนผันกลับมาเปิดร้านได้ปกติเช่นเดิม หรือช่วยจ่ายเงินเยียวยา นำไปซื้ออาหารบรรเทาความเดือดร้อนเหมือนครั้งที่ผ่านมาบ้างก็ยังดี