หมากเป็นพืชที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านและความเป็นอยู่ของคนไทย ในอดีตคนไทยนิยมกินหมากตั้งแต่เจ้านายถึงชาวบ้านธรรมดา มักมีเชี่ยนหมากไว้รับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่นิยมกินหมาก

แต่ยังมีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรม โดยหมากแห้งใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง ฟอกเส้นใย และทำยารักษาโรค และการใช้บริโภคในลักษณะของสมุนไพร โดยผลหมากสามารถใช้เป็นยาสมุนไพรในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น ใช้สมานแผล แก้ท้องเสีย รักษาโรคเหงือกและฟัน เป็นต้น

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการส่งออกหมากทั้งรูปหมากสดและหมากแห้ง คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ปัจจุบันไต้หวันคือผู้นำเข้าหมากจากประเทศไทย หลังจากที่เข้มงวดการนำเข้าหมากไทยเมื่อปี 2547 ทำให้คาดหมายว่าราคาหมากในประเทศจะมีแนวโน้มดีขึ้น หมากจึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจ แถมปลูกง่าย การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก โรคแมลงรบกวนน้อย ลงทุนไม่สูง ทำรายได้สม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นเวลานานนับสิบปี หลังจากปลูกเพียงครั้งเดียว

และหมากเตี้ยก็เป็นหมากอีกพันธุ์หนึ่งที่กำลังนิยมปลูกในปัจจุบันเนื่องจากใช้พื้นที่ปลูกน้อยและเก็บเกี่ยวสะดวกเพราะต้นเตี้ย สำหรับหมากเตี้ยบางพื้นที่เรียกว่าหมากค่อม เป็นไม้ยืนต้นลำต้นเดี่ยวไม่แตกกอเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นประมาณ 5-6 นิ้ว มีก้านใบสั้นเป็นพุ่ม ใบติดเป็นแผ่น ก้านใบชิดลำต้น ระยะแรกจะมีการเจริญทางลำต้น โตจะเป็นพุ่ม เจริญเติบโตด้านความสูง รูปทรงสวย สามารถปลูกเป็นกลุ่มหลาย ๆ ต้นได้

หมากเตี้ยมีข้อสั้นสูงช้ามาก มีลูกเล็กกว่าพันธุ์หมากสูงเล็กน้อย หนึ่งทะลายจะมีผลประมาณ 10-150 ผล ติดผลเป็นทะลายห้อยจากลำต้น ผลอ่อนสีเขียวเข้ม เรียกหมากดิบ ผลแก่ผิวเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้มทั้งผลเรียกหมากสุกหรือหมากสง

เป็นพืชที่ชอบความชุ่มชื้นแต่ต้องไม่มีน้ำขัง แต่ความชื้นต้องพอ เจริญเติบโตได้ดีตั้งแต่ระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเล 700 เมตร เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง มีแสงแดด ดินตะกอน ดินเหนียวมีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี มีหน้าดินลึก 1 เมตร ถ้าน้ำอุดมสมบูรณ์จะให้ผลดกมีผลขนาดใหญ่

ฤดูปลูกที่เหมาะจะอยู่ในช่วงพฤษภาคม –สิงหาคม ระยะปลูกมี 2 แบบ คือ 1. แบบยกร่อง ระหว่างแถวขึ้นอยู่กับความกว้างของร่อง ระหว่างต้นห่าง 3–5 เมตร ถ้าร่องกว้าง 3 เมตร จะได้หมากไร่ละ 100–170 ต้น 2. แบบพื้นราบ ปลูกพื้นราบ ถ้าระยะปลูก 2X2 จะได้ต้นหมาก 400 ต้นต่อ 1 ไร่ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 4 ครั้งต่อปี ในอัตรา 500–1,000 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ไร่ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์จะทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรใส่ขณะที่ลูกหมากอ่อน ๆ เพราะอาจจะทำให้ผลร่วงง่ายได้

เมื่อหมากอายุ 1 ปี จะเริ่มย่างปล้อง ลำต้นยังอ่อนอยู่จะมีสีเขียว ถ้าถูกแดดเผาจะทำให้ต้นแห้งไม่เจริญเติบโตและตายได้ การหุ้มจะหุ้มหลังจากหมดฤดูฝนด้วยทางมะพร้าวหุ้มปิดลำต้นแล้วมัดด้วยเชือกให้แน่น ไม่ควรหุ้มต้นตลอดจะเป็นที่สะสมของโรคแมลงหมากจะให้ผลเกือบตลอดปี โดยหมากปีจะสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ส่วนช่วงผลผลิตมากจะอยู่ที่ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม

ส่วนหมากทะวายสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ซึ่งหมากทะวายจะมีราคาที่แพงกว่าหมากปี.