เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงเตรียมพร้อมรับมือพายุฝน โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนสิงหาคมและช่วงเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงมรสุม และพายุฝน รวมทั้งฤดูน้ำหลาก โดยทุกภาคส่วนต้องเฝ้าระวังตามพื้นที่เสี่ยงภัย

ล่าสุดนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอฆ้องชัย นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ นายสมคิด ชนะบุญ นายก อบต.ลำชี ร่วมกับผู้นำชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเปิดระบบเครื่องสูบน้ำสถานีไฟฟ้ากุดขี้นาค บ้านหนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อระบายน้ำที่กำลังท่วมขังพื้นที่การเกษตรและพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร ลงสู่แม่น้ำชี เพื่อป้องกันการเสียหาย ซึ่งสามารถช่วยนาข้าวใน ต.ลำชี ต.ฆ้องชัยพัฒนา และ ต.เหล่ากลาง ได้กว่า 1,000 ไร่ หลังจากได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “มู่หลาน” มีฝนตกหนัก และมีปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้นายศุภศิษย์ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ นายอำเภอฆ้องชัย นายสมคิด นายก อบต.ลำชี พร้อมด้วยผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนวังยาง และการเสริมกระสอบทรายจุดพนังกั้นลำน้ำชี วัดป่าลำชีศรีวนาราม และจุดเสี่ยงตามแนวพนังกั้นแม่น้ำชี เพื่อเสริมความแข็งแรงของแนวพนังกั้นน้ำชี ป้องกันการกัดเซาะ และน้ำล้นตลิ่ง เตรียมพร้อมรับมือหากมีพายุฝนตกลงมาเพิ่มอีกในช่วงนี้ ก่อนจะเข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บริหารโรงเรียน คณะครู และนักเรียนโรงเรียนวังยางวิทยาคาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดกับลำน้ำชี

นายศุภศิษย์ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ให้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเปิดระบบเครื่องสูบน้ำไฟฟ้ากุดขี้นาค เพื่อสูบน้ำระบายลงสู่แม่น้ำชีช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมขัง หลังได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “มู่หลาน” เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจากการติดตามสถานการณ์ พบว่าภาพรวมมีพื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังกว่า 2,000 ไร่ จึงต้องเร่งสูบน้ำเพื่อป้องกันความเสียหาย ส่วนระดับน้ำชี บริเวณเขื่อนวังยาง ปัจจุบันยังไม่น่าห่วง เจ้าหน้าที่ยังปักธงเหลืองอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวัง โดยล่าสุดระดับน้ำหน้าเขื่อนอยู่ที่ 139.35 ม.รทก. จากระดับกักเก็บ 137.00 ม.รทก. เจ้าหน้าที่ทำการเปิดบานประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน

นายศุภศิษย์ กล่าวอีกว่า นอกจากการเฝ้าระวังและติดสถานการณ์น้ำแม่น้ำชี และผลกระทบจากพายุ “มู่หลาน” แล้ว ยังเป็นการลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ ตามแนวพนังกันแม่น้ำชี โดยมีการดำเนินการเสริมกระสอบทรายเพิ่มความแข็งแรงของแนวพนังกั้นน้ำในแต่ละจุด ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากมีพายุฝนตกลงมาอีก และป้องกันน้ำล้นตลิ่ง ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน