จากกรณี นายณัฐพล และ นางอนันต์ พ่อและย่าของ “น้องเจ้าขา” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกแม่และพ่อเลี้ยงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยติดตามคดีและความคืบหน้าหลัง น้องเจ้าขาถูกแม่และพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนมีการแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังมีการจับกุม พ่อเลี้ยงและแม่เด็กไว้ได้แล้วขณะหลบอยู่ในบ้านพักพื้นที่ย่านลาดพร้าว เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส ขณะเดียวกันตำรวจก็เชื่อว่า ทั้งสองอาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ “น้องพีพี” ลูกคนโต ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

รวบแล้ว! พ่อเลี้ยงโหด-แม่ใจเหี้ยม ทำร้าย ‘น้องเจ้าขา’ สาหัส เค้นสอบปม ‘น้องพีพี’ ดับปริศนา

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่โรงพยาบาลบางบัวทอง จ.นนทบุรี นายณัฐพลและนางอนันต์ พ่อและย่าของน้องพีพีและน้องเจ้าขา ได้เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอคัดสำเนาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ระหว่างที่น้องพีพีรักษาตัวก่อนเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก “การถูกทำร้าย” โดยจะนำหลักฐานทั้งหมดที่ได้ในวันนี้ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เพิ่มเติม เพื่อเอาผิดพ่อเลี้ยงและแม่เด็ก โดยย่าของเด็กทั้งสองเปิดเผยว่า

ตอนนี้น้องเจ้าขาที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือสมองและเชื้อที่ปอดและเชื้อทางเดินปัสสาวะ เพราะน้องยังต้องให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้มีข่าวดีก็คือน้องมีความดันปกติ แต่ก็ไม่สามารถสื่อสารได้ ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องทำกายภาพบำบัด ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้องมีเสมหะออกมาก ตอนนี้ 1 เดือนกับ 3 วันแล้ว ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี

อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับผู้ที่กระทำความผิด ที่ทำกับน้องพีพีที่เสียชีวิต และน้องเจ้าขาที่นอนโคม่าอยู่ขณะนี้ เพราะคุณหมอบอกกับย่าว่าต้องทำใจ ว่าน้องอาจจะต้องป่วยติดเตียงอยู่แบบนี้ตลอดชีวิต ถ้าในระยะ 6 เดือนกายภาพบำบัดแล้วน้องไม่กลับมา หมายถึงน้องเดินไม่ได้ พูดไม่ได้ น้องจะอยู่ในสภาพนี้ตลอดชีวิต แต่ไม่ถึงกับเป็นเจ้าหญิงนิทรา น้องสามารถลืมตาแล้วโบกมือได้ ขยับขาได้แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ ตอนนี้น้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เรื่อย ๆ วานนี้น้องไม่ยอมนอนลืมตา เหมือนรอย่า ย่าก็จะบอกน้องทุกวันว่า ย่ากับพ่อกำลังไปเดินเรื่องสู้เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับหนู

ด้าน นายอนันต์ กล่าวว่า ตนไม่ยอมยกโทษให้เด็ดขาด ตอนนี้รอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าดำเนินการไปถึงไหน ถ้าถามว่ารู้สาเหตุไหมตนยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่ตนมองว่าเหมือนเขาไม่ใช่คนเดิมที่อยู่ด้วยกันมากว่า 10 ปี ตอนที่เขาเห็นข่าวเขายังชินชา ต่อจากนี้คงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับเรื่องทางคดีนั้น ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังยังศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว เบื้องต้นทั้งสองยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่ได้ทำร้ายเด็กแต่อย่างใด แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับสองผู้ต้องหาได้โดยเฉพาะข้อหา ร่วมกันทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากมีหลักฐานใดเพิ่มเติมว่าทั้งสองคนร่วมกันทำร้ายน้องพีพีจนเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง.