เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พร้อมฝ่ายงานเกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหา “แก็งคอลเซ็นเตอร์” โดยก่อนหน้านี้ มีกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ว่า ถูกคนร้ายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกลวงข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีที่คนร้ายเตรียมไว้ รวมเป็นเงินกว่า 6.9 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่ต้องสงสัยเชื่อว่าใช้ในการกระทำผิด จำนวน 2 จุด

โดยจุดแรก คอนโดฯ ย่านอโศก-รัชดา สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนได้ 2 ราย คือ นายหู เฉินปิง อายุ 32 ปี และ นายนี่ ชวง ชุน อายุ 23 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมตรวจยึด โทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ด 33 เครื่อง, คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป, แท็บเล็ต, หนังสือเดินทาง, สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และของกลางอื่น ๆ กว่า 40 รายการ นอกจากนี้ในข้อมูลของโทรศัพท์ยังพบว่ามีการผูกบัญชีม้าไว้ถึง 13 บัญชี เพื่อให้เหยื่อที่หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว และยังพบข้อมูลบุคคลจำนวนมากถูกปลอมแปลงว่า ให้โดนหมายจับ หมายเรียก คดีฟอกเงินของ ปปง. รวมทั้งข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ (ทร.14) รวมทั้งมีการปลอมแปลงเว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI อีกด้วย

สำหรับจุดที่ 2 คอนโดฯ ย่านรัชดา-สุทธิสาร สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน 1 ราย คือ นายจาง หยาง อายุ 29 ปี สัญชาติจีน แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด พร้อมตรวจยึดของกลางกว่า 12 รายการ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ และสมุดบัญชีธนาคาร จากการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่า ผู้ต้องหาดังกล่าว อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดว่า 2,162 วัน ไม่มีการแจ้งขออยู่ต่อแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นหญิงไทยอีก 1 ราย เชื่อว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิด ซึ่งจะได้จับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป สำหรับความเสียหายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ เคยหลอกลวงผู้เสียหายได้เงินไปแล้วถึง 60 ล้านบาท.