เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เดินทางไปตรวจติดตามแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยที่ .ขอนแก่น และอุบลราชธานี ซึ่งถือว่าเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงท่าอากาศยานขอนแก่น ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ขอนแก่น โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมที่ขอนแก่นว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้เป็นการมาตำหนิใคร แต่ต้องการมาช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ขอให้ทุกฝ่ายพยายามเยียวยาอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ แนวทางการแก้ปัญหามีแผนงานโครงการของทุกจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งหลายโครงการมุ่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 65 และบางโครงการมุ่งให้สำเร็จในปี 66 ย้ำว่าการระบายน้ำในพื้นที่และการพร่องน้ำต่างๆจะต้องบูรณาการไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ซึ่งภาพรวมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่น้ำมาก บางพื้นที่น้ำน้อย ดังนั้นจะต้องมาพิจารณาหาแนวทาง เพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกันในเรื่องของการกักเก็บน้ำ

หากยังมีฝนตกในปริมาณมากกว่าที่จะระบายน้ำได้ทัน จะมีปัญหาอยู่เช่นนี้ และไม่ใช่การแก้ตัว แต่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด หากอะไรที่สามารถป้องกันได้ก็ให้ดำเนินการไป เช่น การปกป้องโรงพยาบาล พื้นที่เศรษฐกิจ แต่หากเรื่องไหนทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการแก้ไข เพื่อให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล อาหาร น้ำสะอาด และพื้นที่พักพิง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาต้องสรุปและแบ่งเป็นกลุ่มในการเยียวยาให้ทั่วถึง เช่น กลุ่มเกษตรกร ภาคธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ยืนยันว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ได้สั่งการให้เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการให้เร็วที่สุดในทุกพื้นที่ รวมถึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาช่วยในเรื่องของอาหาร อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยชาติ และช่วยประชาชน นั่นคือสิ่งที่จะรวมพลังคนไทยทั้งหมด และจะสามารถแก้ได้ทุกปัญหา มากบ้างน้อยบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง นั่นคือประเทศไทย หากไม่ทำเช่นนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้  ซึ่งถือว่าไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง

จากนั้นเวลา 10.26 น. นายกฯ เดินออกจากท่าอากาศยานขอนแก่น ด้วยรถยนต์ทรานฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สีส้ม ทะเบียน 1 นข 4001 กรุงเทพมหานคร ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และตรวจระบบการทำงานของเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง ณ บึงหนองโคตร หน้าวัดศรีสะอาดหนองโคตร อ.เมืองขอนแก่น