เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่รัฐสภา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีสืบเนื่องจากโศกนาฏกรรมกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ในนาม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอแสดงความเสียอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ขอแสดงความอาลัยต่อผู้เสียชีวิตด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญต่อพี่น้องชาว หนองบัวลำภู และชาวไทยทุกคน ต่างรู้สึกร่วมกันว่าภัยจากสารเสพติดเป็นภัยใกล้ตัวเข้ามาทุกที เปรียบได้เป็นระเบิดเวลาของสารเสพติดกับสุขภาพจิต ที่ซุกซ่อนอยู่ในสังคมไทยที่พร้อมระเบิดได้อยู่ตลอดเวลา จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องช่วยกันระดมสมองหากลไก เพื่อปลดชนวนระเบิดเวลาเหล่านี้โดยเร็วที่สุด จึงขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เร่งยกระดับการบำบัดรักษาสารเสพติด และสุขภาพจิต เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเป็นกลไกปลดชนวนระเบิดเวลาจากสารเสพติด
“ผมอยากเห็นนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้โดยเร่งตั้งศูนย์เฝ้าระวังอาการทางจิตจากสารเสพติด (ศจส.) โดยขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เวลามีระเบิดเป็นลูกๆอยู่ในหน่วยงานใด เรามักจะได้ยินว่ามีหน่วยอีโอดีเก็บกู้วัตถุระเบิดเหล่านั้น แต่ผู้ติดสารเสพติด มีปัญหาสุขภาพจิต เมื่อมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป กลับไม่มีกลไกเช่นเดียวกับอีโอดีไปแก้ปัญหา แต่ปล่อยให้เขาดำรงชีวิตอยู่ในสังคม ทำให้สังคม และผู้ติดสารเสพติดอยู่ในภาวะอันตราย ผมขอเสนอกระบวนการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด และสุขภาพจิต ให้มีคุณลักษณะเช่นเดียวกับหน่วยอีโอดี ในการไปเก็บกู้ผู้ติดสารเสพติด และสุขภาพจิต ซึ่งผมยังไม่เคยได้ยินจากปาก รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับเรื่องนี้”
นพ.บัญญัติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกลไกที่ระบุว่าผู้เสพคือผู้ป่วย เป็นหลักปฏิบัติทางข้อกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงทั้งระดับอำเภอ ตำบล และจังหวัด ไม่มีมาตรการที่ทำให้บุคคลเหล่านี้เว้นระยะห่างจากชุมชน จึงจำเป็นต้องมีศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดในชุมชน ซึ่งสารเสพติดนั้น หมายรวมถึงสุรา บุหรี่ และกัญชาด้วย
ทางด้านนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภู ทำให้ลูกหลานของเราต้องเสียชีวิต ซึ่งปัญหายาเสพติด รัฐบาลต้องรับผิดชอบ 100% เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ต้องวางแผนล่วงหน้าไม่ให้เกิดขึ้น ทุกหน่วยงานเมื่อเจ้าหน้าที่ถูกปลด ไม่ใช่ปลดแล้วปล่อยทิ้งไว้ เพราะเมื่อไม่มีอาชีพจะมีความเครียดจนเกิดวิกฤติ วันนี้ต้องโทษหน่วยงาน และผู้บังคับบัญชาโดยตรง ว่าทำไมไม่ดูแลรักษาเสียก่อน สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ สามารถปราบยาเสพติดได้โดยมีจำนวนลดลงอย่างมาก วันนี้จึงต้องโทษรัฐบาลที่ปลดล็อกกัญชาให้ออกจากบัญชียาเสพติด ตนไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าทั้งกัญชา และยาบ้านั้นคล้ายกัน ที่เมื่อเสพแล้วจะไม่สมบูรณ์ทั้งทางจิต และทางร่างกาย วันนี้รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบ 100%
“นายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ต้องลาออก เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล สัญญาว่าภายใน 3 ปี จะปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก จะเอาคนติดยาไปรักษา และคนค้าไปประหารชีวิต เราต้องพูดอย่างตรงไปตรงมา เราต้องกล้า วันนี้เหมือนรัฐบาลกำลังส่งเสริมยาเสพติดทั้งประเทศ เช่น ให้ปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น ถ้าเป็นทางการแพทย์ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ถ้าไม่ใช่ถามว่าจะไปขายให้ใคร สุดท้ายประเทศจะล้มละลายทางคลังสมอง ถ้ารัฐบาลปล่อยหรือเอาใจนักการเมือง และคนที่ค้าขายยาเสพติด ในอนาคตเยาวชนจะติดยาเสพติดงอมแงมทั้งประเทศ” นายอุบลศักดิ์ กล่าว
