เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ร.ต.อ.พิทักษ์ พรหมวงษ์ซ้าย รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวเข้าไปขโมยกระเป๋าสตางค์ของชาวบ้าน ที่กำลังทำงานก่อสร้างห้องแถวบริเวณหน้าวัดโพธิวราราม เทศบาลนครอุดรธานี โดยผู้เสียหายได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังออกไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายคือ น.ส.จิราภรณ์ รอดรังสี อายุ 45 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 10 ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ยืนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.ใหม่ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ชาว อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมของกลางกระเป๋าสตางค์สีเขียว ข้างในมีเงินสด 200 บาท ส่วนเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม ได้หายไป ซึ่ง น.ส.ใหม่ ยอมรับว่า ได้เข้ามาขโมยกระเป๋าสตางค์ไปจริงเพื่อต้องการเงินไปซื้อยาและข้าว ให้ลูกชายคนเล็ก อายุ 4 ขวบ เนื่องจากไม่สบายเป็นไข้

น.ส.จิราภรณ์ ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนกับสามีเดินทางมาทำงานก่อสร้างที่ตึกแถวแห่งนี้ในขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ด้านหลัง ลูกชายมาบอกว่า เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาข้างในไซต์งานที่มีกระเป๋าสะพายของตนวางอยู่บนโต๊ะ หลังเดินเข้าไปดูพบว่ากระเป๋าสะพายถูกเปิดออกและวางอยู่ที่พื้น ส่วนกระเป๋าสตางค์สีเขียวได้หายไป จึงได้สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้น ทำให้รู้ว่าคนเข้ามาขโมยกระเป๋าสตางค์ คือ น.ส.ใหม่ จึงได้ไปหาเขาที่บ้านแฟน ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูโขงหน้าวัด เพราะต้องการได้กระเป๋าสตางค์ และบัตรสำคัญต่างๆ คืน

หลังจากตนไปถึงที่บ้าน น.ส.ใหม่ เห็นตนก็ได้วิ่งหนีออกจากบ้านไป เพราะกลัวความผิด ตนก็เลยกลับมาที่ทำงาน ไม่นาน น.ส.ใหม่ ก็ได้มาหาตนที่ทำงาน นำกระเป๋าสตางค์นำมาคืนให้ ส่วนเงินในกระเป๋าสตางค์ เขาบอกว่า เอาไปซื้อยากับข้าวให้ลูกหมดแล้ว ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว

น.ส.ใหม่ ให้การว่า ตนมีลูก 2 คน โดยคนโต เป็นผู้หญิง 7 ขวบ อยู่กับพ่อตนที่ จ.หนองบัวลำภู ส่วนคนเล็ก เป็นผู้ชาย อายุ 4 ขวบ ตนเอามาเลี้ยงที่อุดรฯ ด้วย ตอนนี้แฟนตกงานไม่มีเงิน ตนก็ไม่มีงานทำ ก่อนหน้านี้ตนเป็นไข้ไม่สบายอยู่ 3 วัน ทำให้ลูกชายติดไข้จากตนไปด้วย เมื่อคืนลูกไม่สบายตัวร้อนร้องไห้ทั้งคืน ตนไม่มีเงินพาไปหาหมอหรือซื้อยามาให้กิน จึงได้เดินออกมาจากบ้านสามี เพื่อหาเงินกะว่าจะไปหายืมเงินคนอื่น แต่ก็ไม่รู้จักใคร พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตัดสินใจเข้าไปขโมยกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายนำเงิน 200 บาท ไปซื้อยา ซื้อข้าวเหนียว ไก่ปิ้ง และขนม เอาไปให้ลูกกิน ที่ทำลงไปเพราะหมดหนทางแล้ว ก่อนที่จะเอากระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายมาคืน ตนได้โทรศัพท์ไปหาพ่อให้โอนเงินมาให้ เพื่อจะเอาเงิน 200 บาท คืนให้กับผู้เสียหาย

จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.ใหม่ มาที่โรงพัก ส่งพนักงานสอบสวนแล้วให้ผู้เสียหายมาที่โรงพัก ในตอนแรกผู้เสียหายจะให้ดำเนินคดี พอรู้เหตุผลว่าที่ผู้ก่อเหตุทำลงไปก็เพราะว่าลูกชาย 4 ขวบ ไม่สบายเป็นไข้ จึงไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่ให้ตำรวจทำประวัติเอาไว้ และให้ตักเตือน ไม่ให้ไปก่อเหตุทำกับใครอีก ก่อนที่จะปล่อยกลับไป.