สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า นายฟารัก อาห์เหม็ด โฆษกตำรวจบังกลาเทศ กล่าวว่า ผู้นำของค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา 2 คน ถูกสังหารที่ค่าย 13 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในช่วงไม่กี่เดือนมานี้

“คนร้ายชาวโรฮีนจาหลายสิบคน สังหารนายเมาลวี โมฮัมหมัด ยูนุส หัวหน้าค่าย 13 วัย 38 ปี และนายโมฮัมหมัด อันวาร์ หัวหน้ากลุ่มอีกคนหนึ่ง โดยยูนุสเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนอันวาร์เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในภายหลัง” อาห์เหม็ด กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของหน่วยตำรวจพิเศษที่ได้รับมอบหมาบให้ดูแลรักษาความปลอดภัยในค่าย กล่าวโทษเหตุการณ์สังหารที่เกิดขึ้นกับกองทัพปลดปล่อยชาวโรฮีนจาอาระกัน (อาร์ซา) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏที่ต่อสู้กับกองทัพในเมียนมา

“สิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายของการสังหารโดยกลุ่มอาร์ซา และการปะทะกันภายในของเมียนมา กำลังส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ความมั่นคงในค่าย” เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตน

อนึ่ง การตั้งถิ่นฐานที่ย่ำแย่ของชาวโรฮีนจา เกิดความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยแก๊งต่าง ๆ พยายามเข้าควบคุมการค้ายาเสพติด รวมถึงข่มขู่ผู้นำพลเรือนของกลุ่มผู้ลี้ภัย ด้วยการสังหารและการลักพาตัว

แม้ว่าแก๊งต่าง ๆ จะมีการแข่งอิทธิพลเพื่อควบคุมการซื้อขายยาเสพติด ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ยาบ้า แต่นายมาห์ฟูซุล อิสลาม หัวหน้าตำรวจประจำเขตค็อกซ์ บาร์ซา ของบังกลาเทศ กล่าวว่า ความรุนแรงดังกล่าว ยกระดับจนบานปลายยิ่งขึ้น

“แค่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 14 คน ถูกสังหารในค่ายพักพิงชั่วคราว ซึ่งการฆาตกรรมในค่ายมีจำนวนเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว” อิสลาม กล่าวเพิ่มเติม.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES