ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ต.ค. อนุมัติร่างกฎกระทรวงให้คนต่างชาติ ซื้อบ้านและที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แลกการเอาเงินเข้ามาลงทุนขั้นต่ำ 40 ล้านบาท นานไม่น้อยกว่า 3 ปี หวังดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าประเทศไทยส่งผลให้สังคม เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อย่างกว้างขว้าง

ในมุมหนึ่งมอง เป็นการดึงเม็ดเงินต่างชาติ เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจประเทศที่กำลังซบเซา ขณะที่อีกมุมหนึ่งมอง การให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทย เท่ากับ เป็นการขายชาติ เปิดช่องให้คนต่างชาติเข้ามาแย่งที่ดินคนไทย

วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์ สัมภาษณ์พิเศษ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประเมินค่าทรัพย์สิน ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) มีรายละเอียดดังนี้

ดร.โสภณ ยืนยันวันที่ 25 ต.ค. ที่ ครม. อนุมัติร่างกฎกระทรวงให้คนต่างชาติ ซื้อที่ดิน 1 ไร่ แลกการเอาเงินเข้ามาลงทุนขั้นต่ำ 40 ล้านบาทคือวันขายชาติ ไม่มีรัฐบาลในอารยประเทศใดในโลกให้สิทธิพิเศษขนาดนี้ เปรียบเทียบกับต่างประเทศที่มีมาตรการด้านภาษีกับคนต่างชาติ ที่เข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อดึงเงินเข้าระบบในประเทศตัวเองแต่ประเทศไทยไม่มี ยกตัวอย่าง

1.ประเทศจีนคนต่างชาติ ต้องการซื้อคอนโดที่จีนต้องอยู่ที่เมืองจีนไม่น้อยกว่า 1 ปี ต้องเสียภาษีให้กับท้องถิ่นและให้เช่า 70 ปี ไม่ใช่อยู่ได้ชั่วกัลปาวสานเหมือนไทย

2.ประเทศสหรัฐอเมริกา เฉลี่ย 1 ปี มีต่างชาติ ซื้อบ้าน 1 แสนหน่วยต่อปี หากเมืองไทยตั้งเป้ามีต่างชาติมาซื้อบ้านเป็นล้าน มันต้องฝันแน่นอนเพราะขนาดอเมริกา มีคนซื้อแค่หลักแสนหน่วย หรือกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซื้อบ้านที่รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา 72 ล้านบาท ต้องเสียภาษีสิ่งปลูกสร้างทุกปี 700,000 บาท บางมลรัฐอาจเก็บภาษี 2-3%

แต่หากฝรั่งมาซื้อบ้านในเมืองไทย อาจไม่ต้องเสียภาษีเพราะ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เริ่มเก็บที่ราคาประเมินราชการ 50 ล้านบาทขึ้นไป, เมืองไทยเสียภาษีล้านละ 200 บาท วนที่อเมริกาล้านละ 30,000 บาท อย่างนี้เท่ากับเรายกให้เขาฟรีหรือต่อไปหากนายชัชชาติ อยากขายบ้านที่อเมริกา ซื้อมา 30 ล้านบาทขายต่อ 72 ล้านบาท ส่วนต่าง 40 ล้านบาท อาจต้องเสียภาษี 20% ส่วนเมืองไทยแทบไม่เสียภาษี อย่างนี้ถ้าไม่ขายชาติ ไม่รู้จะว่ายังไง เป็นปัญหาสำคัญ

3.ประเทศญี่ปุ่น ยกตัวอย่าง เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ดาราชื่อดังไปซื้อที่ดิน 12 ไร่ สร้างบ้านที่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น แบบนี้ญี่ปุ่นขายชาติหรือไม่ ญี่ปุ่นไม่ขายชาติเพราะเก็บภาษีเยอะ โดยเฉพาะภาษีมรดก ที่ดิน 12 ไร่ เกาะฮอกไกโดมูลค่า 155 ล้านบาท เจอเก็บภาษีมรดก 55% บางคนซื้อไปร้องไห้ไป

ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประเมินค่าทรัพย์สิน

ดร.โสภณ ตั้งข้อสังเกตร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเปิดช่องให้คนต่างชาติ เข้ามาซื้อบ้าน และที่ดินได้ทุกระดับราคา ไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำส่งผลให้ต่างชาติแย่งคนไทยซื้อไม่เหมือนมาเลเซียที่กำหนดให้ต่างชาติซื้อบ้านราคาที่ 8-16 ล้านบาท, เช่นเดียวกับอินโดนีเซียที่กำหนดราคาซื้อขั้นต่ำเพื่อป้องกัน คนต่างชาติแย่งคนท้องถิ่นซื้อที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่ ออสเตรเลีย กำหนดให้ต่างชาติซื้อได้เฉพาะบ้านมือหนึ่ง หากขายต่อมือสอง ต้องขายคนออสเตรเลียเท่านั้นห้ามขายส่งเดช จับได้ติดคุก 3 ปี ปรับ 3 ล้านบาท พร้อมยกตัวอย่างกรณีตำรวจบุกจับผับลับ ย่านยานนาวา เปิดให้เฉพาะคนจีนมั่วสุมเสพยาเล่นการพนัน เป็นภาพสะท้อน หากรัฐบาล เปิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินแบบนี้ อาจมีการซ่องสุม ธุรกิจสีเทา หากเป็นอย่างนี้ ประเทศชาติเศร้าหมองแน่นอน

ดร.โสภณ ยืนยันการเปิดให้คนต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้หมายความจะกระตุ้นทำให้บ้านเมืองเจริญ ให้ดูประวัติศาสตร์หลายเมืองที่เคยเป็นอาณานิคมต่างชาติ ยกตัวอย่าง พนมเปญ กัมพูชา, ไซ่ง่อน (โฮจิมินห์) เวียดนาม, ย่างกุ้ง เมียนมา ตอนเป็นอาณานิคม ฝรั่งเข้าไปอยู่จำนวนมากแต่ไม่ทำให้เจริญ เพราะกอบโกยทรัพยากรกลับประเทศตัวเอง ส่วนที่หลายคนหวัง หากฝรั่งมาเมืองไทยจะช่วยให้มีงานทำ ไม่แน่ฝรั่งอาจเอาคน เมียนมา, กัมพูชา ไปเป็นคนรับใช้มากกว่าคนไทยด้วยซ้ำไป

สำหรับประเด็นที่รัฐบาลหวังดึงต่างชาติที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ทราบหรือไม่ แรงงานมีฝีมือที่จดทะเบียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มีจำนวน 40,000 คนเท่านั้น ดังนั้นการหวังดึงต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษล้านคนเข้าไทย เป็นแต่การสร้างความน่าเชื่อถือให้สมจริง สมจัง แต่ไม่ได้อยู่บนฐานความจริงเหลืออยู่เลย

ในช่วงท้าย ดร.โสภณ เสนอวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ ขั้นแรกหากให้ต่างชาติเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทย ต้องปรับโครงสร้างภาษีแบบอารยประเทศ และต้องตั้งราคาซื้อที่อยู่อาศัยขั้นต่ำ ป้องกันการซื้อแข่งกับชาวบ้าน รวมถึงต้องการกลไกตรวจสอบนอมินีต่างชาติ พร้อมประเมิน หากท้ายที่สุด ร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวประกาศใช้ มีแนวโน้มต่างชาติกวาดต้อนซื้อที่ดินทำเลทอง ส่งผลราคาที่ดินเพิ่มขึ้น สร้างปัญหาให้คนที่ต้องการซื้อบ้าน แทนที่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ

“แม้เจ้าของที่ดินมีสิทธิขาย แต่หากขายตามใจโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ คิดถึงตัวเองอย่างเดียว เป็นความเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด” ดร.โสภณ ทิ้งท้าย.

ขอบคุณรูปจากเฟซบุ๊ก “ดร.โสภณ พรโชคชัย”