เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือ APEC 2022 ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ใช้โอกาสนี้ในการโชว์ศักยภาพของประเทศไทย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ควรใช้โอกาสดังกล่าวสร้างประโยชน์ให้กับคนไทยและประเทศ
แต่หลายประเทศยืนยันว่า จะมาร่วมประชุม แต่ที่มานั้นเป็นผู้นำที่มีอำนาจตัดสินใจมาเองหรือส่งผู้นำระดับรองๆ มาแทน กรณี นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไม่มาด้วยเหตุผลใดกันแน่ รวมทั้งวาระการประชุมที่จะมีการหารือกันในระหว่างประชุมมีอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง ขณะที่ การประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และการประชุม APPF หรือการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก พบว่าประเทศไทยจะตกกรอบเวทีโลกอยู่แล้ว ผู้นำโลกมองผู้นำไทยในสายตาที่เปลี่ยนไป ทั้งการยอมรับ การเชื่อถือ การเพิ่มศักยภาพในการเจรจา เพราะภาพของผู้นำประเทศไทย ในสายตาประชาคมโลกลดลงไปมาก
“น่าเสียใจแทนที่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างศักยภาพของประเทศไทยในเวทีโลก แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับใช้เวทีนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายในการกำหนดทิศทางการเมืองในอนาคตของตัวเอง สะท้อนว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับเวทีนี้ แต่เป็นเพียงการเดิมพันอนาคตทางการเมือง ปิดโอกาสของประเทศไทย แต่นำเวทีเอเปคมาปกป้องหรือประชาสัมพันธ์ตัวเอง ขอเตือนไปยังรัฐบาลว่าประชาชนคาดหวังว่าประเทศไทยจะสามารถเปิดประตูเศรษฐกิจโลก ไม่ตกเวทีเหมือนที่ผ่านมา ควรใช้เวทีนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่ากับงบประมาณที่จ่ายไป” นายจักรพล กล่าว
ทางด้าน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงนามถอนร่างกฎกระทรวงขายที่ดินให้คนต่างชาติออกตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) เสนอมาว่าตนหวังว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะมีเพียงคำตอบเดียวที่ ครม.จะให้กับประชาชนคือ ยกเลิกแนวคิดนี้ไปเสีย จะถือว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำประโยชน์กับประเทศบ้างแล้ว ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลเร่งรีบดำเนินการ ไม่ผ่านกระบวนการศึกษารายละเอียดถึงผลดี ผลเสีย อย่างดีพอ จนอาจเดินเข้าสู่ตัดสินใจบกพร่องผิดพลาดอย่างร้ายแรง ทำให้สังคมปรามาสว่าเป็นแนวคิดขายชาติ
ดังนั้นจึงอยากเตือนสติบรรดากองเชียร์ลิ่วล้อที่หลับหูหลับตาเชียร์แบบไม่รู้เรื่อง กลุ่มคนเหล่านี้ควรเปิดหู เปิดตา เปิดใจ รับฟังข้อมูลจากผู้อื่นบ้าง จะได้ไม่พลาดอีก โดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่งในรัฐบาลที่เคยออกมาเชียร์กฎกระทรวงนี้ว่าช่วยกระตุ้นการลงทุน และยังโจมตีว่ากฎกระทรวงการขายที่ดินต่างชาติ ฉบับปี 2545 เข้มงวดเกินไป ทั้งที่ในช่วงนั้นรัฐบาลภายใต้การนำโดยพรรคไทยรักไทย (ทรท.) คิดอย่างรอบคอบละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว โดยมีเป้าหมายว่าต้องยังคงไว้ซึ่งการรักษาชาติ รักษาแผ่นดินไทยเอาไว้
น.ส.ตรีชฎา กล่าวด้วยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศเป็นแบบรัฐบาลผสม แต่ทำงานแบบตัวใครตัวมัน ไม่รับผิดชอบร่วมกัน ทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจน มิหนำซ้ำยังทะเลาะและห้ำหั่นกันเองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย กรณีปัญหากัญชาเสรี โดยไม่ได้เกรงใจประชาชนแม้แต่น้อย สิ่งที่เกิดขึ้นอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะเดินหน้ากฎกระทรวงขายที่ดินให้ต่างชาติ แต่ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ จะชะลอ ยิ่งเป็นการประจาน พล.อ.ประยุทธ์ ว่ากำลังถูกโดดเดี่ยว ซ้ำยังไม่มีน้ำยาในการสร้างความปรองดองแม้แต่ใน ครม.เอง
“รัฐบาลประยุทธ์อย่าคิดว่าถ้าพลาดแล้ว ล้มเลิกแล้วจะจบ คำขอโทษประชาชนสักคำไม่มี กรณีนี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของรัฐบาลที่กระทบกระเทือนหัวใจคนไทยอย่างรุนแรงถ้ามันเกิดขึ้นจริง คำปรามาสที่สังคมมอบให้ว่าขายชาติ ขายแผ่นดิน คงต้องตกเป็นของรัฐบาลเป็นแน่” น.ส.ตรีชฎา กล่าว