เมื่อวันที่ 20 พ.ย. จากกรณีมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพก้นเด็กที่มีรอยฟกช้ำจากการถูกตี พร้อมระบุข้อความว่า หลานชายพ่อมันตายได้ 3 ปีแล้ว ถูกผู้อำนวยการโรงเรียน ตีจากสาเหตุไปด่าเพื่อน จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ถึงการกระทำของ ผอ. ที่รุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ ต่อมาย่าของเด็กที่ถูกตีได้พาหลานชาย ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.6 อายุ 12 ขวบ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับ ผอ.รร.

โดย นางรมณ อายุ 62 ปี ผู้เป็นย่า น้องอาร์ม (นามสมมุติ) หลานของตนอายุ 12 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.6 ที่ผ่านมาหลานอยู่กับยายบุญธรรมเพราะแม่เขางานยุ่ง เหตุหลานถูก ผอ.รร.ใช้หวายตี เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุยายบุญธรรมพาหลานมาส่งให้ ตนจึงพาไปแจ้งความ ตำรวจส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.สรรคบุรี โดยทางแพทย์แจ้งว่ารอยฟกช้ำที่ก้นจะหายใน 1 อาทิตย์ ปัจจุบันน้องอาร์มไม่อยากไปโรงเรียน อาจจะกลัวเพื่อนและเจ็บแผล ตนอยากจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับ ผอ.ผู้ก่อเหตุ เพื่อให้เป็นตัวอย่าง เนื่องจากไม่รู้จักระงับอารมณ์ ทำเกินกว่าเหตุ

“เด็กทะเลาะกันเดี๋ยวก็ดีกัน ไม่ได้ทำร้ายร่างกายกัน ก็แค่ด่ากัน ซึ่งตนรู้ว่าหลานของตนเป็นเด็กปากจัด ด่าเก่ง ก็พยายามว่าหากมาเรียนอยู่ในโรงเรียนตัวอำเภอและมาอยู่ด้วยก็จะพยายามค่อยๆ อบรมไป เหตุการณ์นี้ในฐานะเป็นปู่เป็นย่าก็ต้องปกป้องหลาน หลังเกิดเหตุ ผอ.คนดังกล่าวก็ได้เดินทางมาขอโทษแล้วที่โรงพยาบาล แต่ตนก็คงไม่ยอมความ เพราะหลังจากที่ตีเด็กไปแล้วเขาไม่ได้มาดูเด็กเลย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ตาม ตนก็ได้ถามไปว่าตีเด็กแล้วไม่ได้ดูเด็กเลยหรอ เขาบอกว่าไม่ได้ดู ขอโทษ ผอ.พูดอย่างนี้” ย่าเด็ก กล่าว

ด้านน้องอาร์ม เล่าว่า ก่อนถูก ผอ.ตี ตนเองด่าเพื่อนโดยให้ของลับ เนื่องจากถูกเพื่อนล้อว่าไอ้หน้าขี้แมลงวัน ผอ.ได้ใช้หวายตี 3 ที และตอนเช้าก็ถูก ผอ.ตีไปแล้วรอบหนึ่ง 2 ที เนื่องจากล้อพ่อแม่เพื่อน ตอนนี้ยังเจ็บก้นที่ถูกตีอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง อำเภอสรรคบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านยายบุญธรรม เพื่อทำการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นพร้อมดูสภาพจิตใจของวน้องอาร์ม โดยมี ผอ.รร. รวมทั้งเพื่อนครู ร่วมเดินทางไปด้วย ชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์ต่างเดินทางมาให้กำลังใจ ผอ. เพราะเป็นคนดี ชาวบ้านส่วนใหญ่รักใคร่ สำหรับเรื่องดังกล่าวคาดว่า ผอ.น่าจะฟิวส์ขาดเนื่องจากเด็กมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวเลยพลั้งมือตีแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการนัดคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยกันในที่ 22 พ.ย.นี้ อีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผอ.รร.คนดังกล่าวขอไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แต่ได้ให้ข้อมูลกับทางบ้านพักเด็กฯ ชัยนาท และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองว่า ปกติแล้วเด็กคนนี้จะถูกว่ากล่าวตักเตือนและโดนทำโทษเป็นประจำเนื่องจากมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ใช้คำพูดหยาบคาย ล่าสุดที่ตีเด็กเป็นชั่วโมงเรียนที่พระครูกำลังทำการสอนอยู่ในชั้นเรียน เด็กคนดังกล่าวเคาะโต๊ะไม่ฟังเพื่อนเตือน และเด็กเลยให้ของลับกับเพื่อนต่อหน้าพระครู ตนจึงเรียกเด็กมาลงโทษ โดยก่อนที่จะทำการตีตนเองก็ได้ทำการอบรมซึ่งตัวเด็กก็ยอมรับผิด ปกติแล้วเด็กอยู่ในโรงเรียนจะกลัว ผอ. แต่พอกลับบ้านเด็กก็จะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวอย่างเดิม ซึ่งตอนเด็ก เรียนอยู่ชั้น ป.4 เคยใช้หินขว้างยายจนยายตาบอด และยังมีพฤติกรรมก้าวร้าวอีกหลายอย่างที่ทางยายและน้าซึ่งเป็นคนเลี้ยงมาเล่าให้ฟัง และจะบอกกับตนตลอดว่า ผอ.ช่วยดูหลานหน่อยเอาไม่อยู่แล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนเองก็ยอมรับผิดที่ลงมือตีเด็กไป.