ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการประกวดข้าวที่ดีที่สุดของโลกประจำปี 2022 ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดที่จังหวัดภูเก็ต ผลตัดสินปรากฏว่า ข้าวหอมมะลิของกัมพูชาชื่อ ผกาลำดวน ได้รับรางวัลชนะเลิศข้าวที่ดีที่สุดในโลก เฉือนเอาชนะข้าวหอมมะลิ 105 แชมป์เก่าจากไทยไปหวุดหวิด ซึ่งถือเป็นการเสียแชมป์คาบ้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ข้าวหอมมะลิ 105 เคยคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดข้าวโลกถึง 2 ปีติดต่อกัน ระหว่างปี 63-64 

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เท่าที่ได้มีการพูดคุยกับกรรมการผู้ตัดสินที่เป็นเชฟชาวสหรัฐ ระบุว่า ข้าวหอมมะลิไทยแพ้ข้าวกัมพูชาเพียงนิดเดียว ตรงที่กลิ่นหอมน้อยกว่า โดยตัวคุณภาพข้าว และรสชาติมีคุณภาพดีเหมือนกัน แต่จะแพ้ตอนที่กำลังหุง ข้าวหอมมะลิของกัมพูชาจะมีกลิ่นมากกว่า ขณะที่กลิ่นของข้าวหอมไทยออกมาน้อย โดยปีนี้ไทยได้คัดเลือกข้าวที่ดีที่สุด ในนามสมาคมส่งไปประกวดแค่ 1 ตัวอย่าง จากข้าวที่ส่งประกวดทั้งหมด 20 ตัวอย่าง มีทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ลาว อินเดีย ปากีสถาน สหรัฐ จีน โดยข้าวไทยแพ้กัมพูชาไปแค่ 1 คะแนน ส่วนอันดับสามเป็นข้าวจากเวียดนาม และอันดับสี่ข้าวหอมมะลิจากลาว

“ปีนี้แปลกมาก ว่าทำไมข้าวหอมมะลิของไทยไม่ค่อยหอม ซึ่งก็ยอมรับว่าข้าวไทยไม่ค่อยหอมจริง เพราะจากการไปสำรวจข้าวที่จังหวัดอุบลราชธานี ทดลองเอาข้าวหอมมะลิใหม่มาลองหุง ก็ไม่มีกลิ่นหอมเท่าไร ยิ่งตอนหุงไม่มีกลิ่นเลย หลายคนก็พูดว่า ปีนี้ข้าวไม่ค่อยหอม อาจจะน้ำเยอะไป ฝนตก กลิ่นหอมหายหมด แต่ปีหน้าสมาคม ก็ตั้งใจจะส่งข้าวเข้าไปประกวดทวงแชมป์คืน”

นายชูเกียรติ กล่าวว่า การเสียแชมป์ข้าวโลกครั้งนี้ เป็นสัญญาณเตือนว่า ไทยจะต้องกลับมาให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างจริงจัง เช่น จะทำอย่างไรให้มีกลิ่นหอม มีรสชาติดีกว่าเดิม เพราะเข้าใจว่า ข้าวของกัมพูชาจะเน้นใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาก แต่ข้าวไทยใช้ปุ๋ยเคมีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาว ขณะเดียวกันก็อยากให้รัฐบาลหันมาพัฒนาพันธุ์ข้าวไทยอย่างมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลทุกชุด จะเน้นดูแลแค่เรื่องราคา เช่น โครงการประกันรายได้ โครงการจำนำข้าว ใช้เงินไปนับแสนล้านบาท แต่ไม่ส่งผลดีต่อระยะยาวต่อสายพันธุ์ข้าวเลย

“คงต้องจับตามองว่า ไทยจะพัฒนาอย่างไร เพราะตอนนี้ข้าวหอมกัมพูชาถูกกว่าไทยมาก ทำให้การแข่งขันตลาดข้าวหอมน่าจะรุนแรง ไทยอาจต้องลดราคาลงแข่ง เพราะปัจจุบันข้าวผกาลำดวน 720 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ผลผลิตไม่น่าเกิน 1.5 ล้านตัน ขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยอยู่ที่ 750 ดอลลาร์”

ส่วนในอนาคตข้าวหอมมะลิของเพื่อนบ้าน จะพัฒนามาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทยได้ทั้งหมด อย่างลาวปีนี้ ส่งแข่งและได้ถึงที่สี่ ซึ่งเตือนว่า ไทยต้องพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง ให้มีพันธุ์ข้าวที่ดีขึ้น รวมถึงดูแลต้นทุนผลิตให้ลดลง และผลผลิตต่อไร่ต้องมีมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ต้องพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลาย เช่น สายพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม ที่เวียดนามกำลังครองตลาดเอเชียอยู่ เพราะตอนนี้ชาวเอเชียชอบข้าวขาวพื้นนุ่มมาก ทั้งในจีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สมาคมพยายามผลักดันให้รัฐมาสนใจ แต่รัฐบาลจะสนใจแต่เรื่องราคาเป็นหลัก