เมื่อวันที่ 24 พ.ย. นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของสมาชิกในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ที่จะย้ายกลับไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดไปสมัครสมาชิก เพราะมีข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาอยู่ ดังนั้นต้องให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคดูก่อนว่า ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร เพราะการทับซ้อนพื้นที่ หรือถ้าจะย้ายไปเลยก็ต้องลาออก ก็ต้องพ้นจาก ส.ส. ดังนั้นต้องดูให้รอบคอบก่อน

นายไผ่ กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดมาทุกครั้ง คือเราทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในทุกมิติ เพราะจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทยเหมือนเดิม เราทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร มาตลอด ท่านบอกอะไร ทำอะไร รวมถึงเวลาเรามีความเดือดร้อนอะไรในพื้นที่ คนที่เราเอาหนังสือไปยื่นให้ช่วยเหลือ ก็คือ พล.อ.ประวิตร ท่านทั้งหมดที่คอยช่วยเหลือ เราก็เลยคิดว่า ตรงนี้คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถดูแลชาวบ้านได้

เมื่อถามว่า หมายความว่าจะยังไม่ไป พปชร. ตอนนี้ ใช่หรือไม่ แต่ยังช่วย พล.อ.ประวิตร เหมือนเดิม นายไผ่ กล่าวว่า ไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่เอาเป็นว่าเราไม่สร้างความไม่สบายใจให้ใครดีกว่า คือเราพร้อมทำทุกอย่าง ตรงนี้เราก็ซัพพอร์ต พล.อ.ประวิตร ได้ เราเป็นเด็กดีอยู่แล้ว ตรงไหนที่เราช่วยได้ ตรงไหนที่เราดูแลได้ ถ้าวันหนึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า มาอยู่เลย เราก็พร้อมไปอยู่เลย แต่ถ้ายังไม่สบายใจอย่างที่วันนี้บอก ก็ไม่เป็นไร เราก็พร้อมที่จะซัฟพอร์ตอยู่ตรงนี้

เมื่อถามว่า เป็นเพราะมีข่าวสมาชิกในพรรคอึดอัดหรือไม่หาก กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ย้ายกลับ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ตนคิดว่าที่ผ่านมา ปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐเพราะอะไร ซึ่งมันค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว และถ้าวันนี้ เราออกมาพูดแล้วต้องไปโจมตีใคร เราขอไม่พูดดีกว่า วันนี้ปัญหาคงไม่มีอะไรแล้ว และเท่าที่คุยกับเพื่อน ส.ส. ก็ไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น อย่างนายสันติ พร้อมพัฒน์ วันก่อนก็เจอกันที่ จ.กำแพงเพชร ยังแซวตนเลยว่า “พ่อ แม่ หุงข้าวไว้ให้แล้วเนี่ย กลับมาเสียทีซิ”

ดังนั้นตนเชื่อว่าตนและพี่ๆ ใน พปชร. คงไม่ได้มีอะไรกัน และในการทำการเมือง ตนว่าสิ่งสำคัญคือการรวมคนและตนเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะสามารถดูแลและเอาอยู่ทุกคน และที่ผ่านมา หากย้อนไปดูสิ่งที่ตนพูด ก็จะชัดเจนว่ามันล้อกันมาตลอด ปัญหามันเกิดจากในพรรค ที่บางทีนโยบายต่างๆ ไม่ได้รับการนำไปทำให้เป็นรูปธรรมเพราะไม่ได้รับการตอบสนองจากกลุ่มอำนาจหรือไม่

“ผมคิดว่าครั้งนี้ถ้า พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว และรวมถึงได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วย สิ่งที่เราพูดและทำทั้งหมดมันจะเป็นจริง เหมือนอย่างวันนี้ที่ พล.อ.ประวิตร กำกับเรื่องน้ำ ผมก็มั่นใจว่ากำแพงเพชร ไม่มีครั้งไหนที่จะได้งบประมาณบริหารจัดการน้ำ การลอกคูคลองที่ตื้นเขิน 10-20 ปี ยังไม่ได้ลอก รวมถึงหลายๆ อย่างมากมาย” นายไผ่ กล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องนี้ทาง ร.อ.ธรรมนัส ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร บ้างหรือยัง นายไผ่ กล่าวว่า คุยกันแล้ว แต่ต้องเข้าใจว่า เรายังพูดได้ไม่เต็มปากว่า รวมกันแล้ว เพราะมีเรื่องกฎหมายที่ยังเป็นเงื่อนไขสำคัญอันไหนทำได้ ทำไม่ได้ ดังนั้นให้ฝ่ายกฎหมายดูก่อน

นายไผ่ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้มีกระแสข่าวออกมาว่า เรามีการต่อรอง อยากเข้าไปเป็นเลขาธิการพรรคบ้าง เป็นอะไรบ้าง ซึ่งความจริงไม่มีเลย ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย เราเข้าไปเป็นสมาชิกธรรมดาก็ได้ แต่ถ้าท่านเห็นว่าตรงไหนเราทำได้ เราก็ทำ ไม่มีการต่อรองตำแหน่ง และไม่มีการต่อรองตำแหน่งใหญ่กว่านี้ด้วยเช่นกัน ไม่มี เพราะตอนนี้ก็ถือว่าปลายสมัยรัฐบาลแล้ว ดังนั้นไม่มีประโยชน์อะไร

เมื่อถามว่า จะไปทั้งหมดกี่คนในกลุ่ม นายไผ่ กล่าวว่า ไปกันทั้งหมด 13 คน เพราะมีการแสดงจุดยืนและพูดคุยกันแล้วว่า ไปไหนก็ไปด้วยกัน เราคงไม่มีไปไหนแบบเดี่ยวๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็จะมีที่ไปพรรคภูมิใจไทย.