ศึกมวยสากลชิงแชมป์โลกที่ว่างรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) ซึ่งเป็นการเจอกันในภาคที่ 3 ระหว่าง “ไอ้ไก่ชน” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา จากเม็กซิโก กับ “ช็อคโคลาติโต” โรมัน กอรซาเลซ จากนิการากัว เมื่อเช้าวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาเมืองไทย ที่อริโซนา,สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า เอสตราดา ย้ำแค้นจากที่เคยชนะ โรมัน ไฟต์ล่าสุด ด้วยการเอาชนะคะแนน โรมัน ไปอีกครั้งในการดวลกันสูสัดุเดือดตลอด 12 ยก  โดย กรรมการหนึ่งคนให้เสมอกัน 114-114 คะแนน ส่วนอีก 2 คน ให้ เอสตราดา ชนะ 116-112 คะแนน และ 115-113 คะแนน ทำให้ เอสตราดา ชนะ โรมัน เป็นครั้งที่ 2 จากการเจอกัน 3 ครั้ง โดยแพ้คะแนน โรมัน ไป 1 ครั้ง

 หลังการชก  โรม้น เปิดเผยว่า เขายังไม่คิดเรื่องอนาคตการชกมวยตอนนี้ จะต้องปรึกษาหารือกับทีมงานและครอบครัวอีกครั้ง เจอกับ เอสตราดา ทีไรมันยากเสมอ

April 25, 2019; Los Angeles, CA; WBC/Ring Magazine super-flyweight champion Srisaket Sor Rungvisai and Juan Francisco Estrada pose after weighing in for their April 26th Matchroom Boxing USA fight card at The Forum in Los Angeles, CA. Mandatory Credit: Ed Mulholland/Matchroom Boxing USA

            ด้าน เอสตราดา เปิดเผยหลังชก โดยไม่พูดถึงคู่ปรับ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ที่เคยผลัดกันแพ้ชนะมาคนละครั้ง ว่า เขามั่นใจว่า โรมัน ยังชกต่อได้อีก ไม่ต้องรีบแขวนนวมตอนนี้ หากต้องการทำศึกภาค 4 กับตนอีก ตนก็พร้อม แต่สำหรับตนตอนนี้อยากชกล้มแชมป์กับ คาซึโตะ อิโอกะ แชมป์โลกรุ่นเดียวกันขององค์กรมวยโลก (WBO) จากญี่ปุ่นมากกว่า เพราะ อิโอกะ เป็นแชมป์โลก 4 รุ่น เป็นความท้าท้ายที่ตนอยากโค่นให้ได้ ขณะที่ แอ็ดดี เฮิร์น โปรโมเตอร์ผู้จัดจากแมตช์รูมเปิดเผยว่า รุถ่น 115 ปอนด์ ควรมีแชมป์โลกที่ดีที่สุด ดังนั้น ผู้ชนะการชกล้มแชมป์ระหว่าง อิโอกะ กับ โจชัว ฟรังโก แชมป์โลกของสมาคมมวยโลก (WBA)  สมควรได้ชกล้มแชมป์กับ เอสตราดา  ต่อไป