เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวช หรือ กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.ลลิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เข้ามาแจ้งความที่ สภ.ปลวกแดงระยอง กรณีบุตรชายวัย 10 เดือน เสียชีวิต หลังไปจ้างคนเลี้ยงที่บ้านพักภายในซอยสุพรรณ หมู่ 4 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยได้โทรศัพท์มาแจ้งความ แต่ตำรวจที่รับสาย กลับปัดรับแจ้งความ

แม่เด็ก เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกสองคน คนโตเป็นลูกสาววัย 2 ขวบ และลูกชายวัย 10 เดือน ที่เสียชีวิต หลังสามีเลิกราไป จึงต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูกทั้งสองคน กระทั่งไปพบประกาศบนเฟซบุ๊กว่า รับเลี้ยงเด็ก อยู่ที่ซอยสุพรรณ หมู่ 4 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พร้อมเบอร์โทรศัพท์ จึงได้ติดต่อไป และเข้าไปดูสถานที่และคนเลี้ยง ซึ่งเป็นป้า ที่เลี้ยงหลานตัวเองด้วย เมื่อได้ตรวจสอบจึงไว้ใจ ตกลงจ้างให้เลี้ยงลูกทั้งสองคน ราคา 7,000 บาทต่อเดือน เลี้ยงผ่านไป 3 เดือน ก็ปกติ

จนกระทั่งเมื่อต้นเดือน พ.ย. 65 วันหยุดตนจึงเข้าไปหาลูกที่บ้านคนเลี้ยง เมื่อเห็นหน้าลูกชายก็ถึงกับตกใจ เพราะมีแผลพุพองที่รอบปาก และศีรษะด้านหลัง ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา เมื่อสอบถามคนเลี้ยง บอกว่า ลูกชายหกล้มไปทับของเล่นจึงเป็นที่ปาก ส่วนที่ศีรษะไม่ทราบเกิดจากอะไร จึงรีบพาลูกไปรักษาที่คลินิกใกล้บ้าน แต่ทางแพทย์แจ้งว่าให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงพาไปรักษาที่ รพ.ระยอง จนถึงวันที่ 17 ธ.ค. 65 น้องได้เสียชีวิต จึงเกิดความสงสัยจากบาดแผลที่เกิดขึ้นว่า ลูกต้องถูกทำร้ายแน่ ประกอบกับผลแพทย์ออกมาว่าบาดแผลเกิดจากการทำร้าย จึงโทรศัพท์ไปแจ้งความที่ สภ.ปลวกแดง แต่กลับถูกปฏิเสธ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงแจ้งไปทางเพจกัน จอมพลัง จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งขอบคุณกัน จอมพลังมากที่ช่วยเหลือ เพื่อให้ความจริงปรากฏ โดยตนเชื่อว่าลูกต้องถูกทำร้าย

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจาก น.ส.ลลิตา ว่าบุตรชาย วัย 10 เดือน เสียชีวิต หลังจากไปจ้างคนเลี้ยง โดยให้เลี้ยงลูกทั้งสองคน เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องทำงานทั้งกลางวัน และกลางคืน จึงไม่มีเวลา หลังจากที่จ้างเลี้ยงผ่านไป 3 เดือน บุตรชายวัย 10 เดือน กลับมีบาดแผลที่รอบวงปาก และที่ศีรษะด้านหลัง จึงพาไปรักษาที่ รพ.ระยอง จนกระทั่งเสียชีวิต หลังจากนั้น แม่เด็กได้โทรฯ แจ้งความที่ สภ.ปลวกแดง แต่กลับถูกปฏิเสธ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากตนเอง วันนี้จึงพาแม่มาพบกับตำรวจ

ขณะที่ยายของเด็กที่เสียชีวิต กล่าวว่า สงสารหลานมาก ที่ต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ลืมตามาดูโลกได้ไม่นาน ก่อนที่จะแม่เด็กจะพาเด็กไปจ้างให้คนเลี้ยง หลานทั้งสองคนมีความร่าเริง มาเห็นสภาพหลานที่โรงพยาบาลถึงกับช็อกน้ำตาไหล เพราะสภาพหลานมีแผลที่รุนแรง และร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลา โดยใช้มือจับกุมที่ศีรษะตลอด คงจะปวดแผล ต้องการให้ทางตำรวจตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตของหลาน ไม่เชื่อว่าแค่หกล้มทับของเล่นจะเป็นแผลรุนแรงจนถึงกับเสียชีวิต ต้องการดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะหากเป็นการกระทำของคนเลี้ยงก็ไม่ควรปล่อยไว้ หากปล่อยไว้อาจจะมีเด็กต้องรับเคราะห์อีก

ต่อมา กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.ลลิตา แม่เด็กที่เสียชีวิต เข้าพบ พ.ต.ท.คำพันธ์ รุณพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปลวกแดง ระยอง โดยมี น.ส.นพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจ.ระยอง เพื่อตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น

กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากทราบข้อเท็จจริง ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง และ สภ.เมืองระยอง ที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งตามที่โพสต์ข้อความออกไปว่าไม่รับแจ้งความ เมื่อทราบความจริงจึงเข้าใจว่า ตำรวจที่รับสายไม่ได้เข้าเวรในวันนั้น และเรื่องเกี่ยวกับเด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบ ซึ่งในวันนี้ทางตำรวจรับแจ้งความ และได้ดำเนินการทันที จึงต้องการตรวจสอบหาความจริงที่เกิดขึ้น

ด้าน พ.ต.ท.คำพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปลวกแดง กล่าวว่า เรื่องที่ไม่ได้รับแจ้งความนั้น เป็นการโทรฯ มาแจ้งกับตำรวจที่ไม่ได้เข้าเวร ซึ่งอาจจะเป็นการใช้คำพูดที่ผิดไป จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว แต่ในวันนี้ทางตำรวจก็ได้ดำเนินการทันที โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปคุมตัวผู้ที่รับเลี้ยงเด็กมาทำการสอบสวนแล้ว ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ ก็ต้องอยู่กับพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพียงแค่ทำการสอบสวน หากพบมีมูลความผิดก็จะดำเนินคดีทันที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้รับจ้างเลี้ยง ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 45 ปี ที่บ้านพัก ก่อนจะคุมตัวมาทำการสอบสวน ที่ สภ.ปลวกแดง โดยเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงคุมตัวสอบสวนต่อไป

ด้าน น.ส.นพนา หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ ระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามแม่เด็ก เกี่ยวกับลูกสาวคนโตวัย 3 ขวบ ที่จ้างเลี้ยง โดยพี่เลี้ยงคนเดียวกัน เพื่อจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยการรับไปดูแลแทน ซึ่งทางแม่เด็กยืนยันว่า สามารถดูแลด้วยตนเองได้ ซึ่งทางเราก็ไม่สามารถที่จะพาเด็กไปดูแลในกรณีที่ผู้ปกครองยังสามารถเลี้ยงดูเองไหว แต่ถึงอย่างไร ก็จะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแล เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาในการเลี้ยงดู และพร้อมให้ความช่วยเหลือ.