กรณี 7 คนไทยเข้าไปเก็บเห็ดแล้วหลงป่าล้ำเข้าไปในเขตแดน สปป.ลาว ก่อนถูกควบคุมตัวไว้โดยทั้งหมดถูกนำไปกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เมืองปทุมพร แขวงจำปาสัก เป็นเวลา 14 วัน เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ต่อมามีกระแสข่าวลือสะพัดในโลกโซเชียลว่าหลังกักตัว 14 วัน แล้วทั้งหมดจะถูกทางการ สปป.ลาว ฉีดวัคซีน mRNA ป้องกันโควิดให้ฟรีก่อนส่งตัวกลับมา แต่ผ่านไปกว่า 20 วันแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกปล่อยตัวกลับมาหรือมีการยืนยันว่าทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด จนญาติพี่น้องและชาวบ้านฝั่งประเทศไทยออกมาประท้วงเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้าช่วยเหลือนำตัวกลับมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เผยเหตุผลที่เป็นไปไม่ได้ ‘7 คนไทย’ เก็บเห็ดล้ำเข้าลาว แล้วได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง สปป.ลาว กักตัวทั้ง 7 คนไทยครบ 14 วันแล้ว ได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนราชการของทาง สปป.ลาว จนแล้วเสร็จ ก่อนส่งตัวคนไทยทั้ง 7 กลับสู่ประเทศไทย โดยช่วงเช้า นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี ได้รับการประสานงานจาก แขวงจำปาสัก และมีการประชุมพูดคุยกันระหว่างรอง เจ้าแขวงจำปาสัก และ รอง ผวจ.อุบลราชธานี ผ่านแอพพลิเคชั่นซูม ได้รับการยืนยันจากทาง สปป.ลาว จะส่งตัว 7 คนไทยให้ ทาง จ.อุบลราชธานี ในวันนี้ (วันที่ 20 ส.ค.)

กระทั่งเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน บริเวณด่านวังเต่า ฝั่ง สปป.ลาว กับ ด่านช่องเม็ก ของประเทศไทย นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี ได้เดินทางมารับคนไทยทั้ง 7 คน ด้วยตัวเอง สอบถามคนไทยทั้ง 7 เบื้องต้นยินยอมเข้าสู่ขบวนการกักตัวต่อตามขั้นตอน โดย 1 ใน 7 เปิดเผยว่า ภายหลังถูกควบคุมตัวจนถึงถูกส่งตัวกลับประเทศไทยไม่ได้มีการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด โดยภายหลังกักตัวเสร็จทางการ สปป.ลาว ได้เปรียบเทียบปรับคิดเป็นเงินไทยคนละ 6,000 บาท ตามระเบียบข้อกฎหมายของ สปป.ลาว จากนั้น นายสฤษดิ์ ได้ประสานรถขนส่งจังหวัดมารับทั้งหมดไปตัวที่ต่อที่โรงพยาบาลสนามบ้านยางน้อย อำเภอเขื่องใน อีกเป็นเวลา 14 วัน ก่อนจะพิจารณาฉีดวัคซีนให้ตามขั้นตอนก่อนปล่อยตัวกลับไป