เมื่อวันที่ 3 ก.ค. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 สรุปวันที่ 2 ก.ค.ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 11 ราย ทำให้มียอดสะสม 81 ราย รักษาอยู่ 35 ราย รักษาหายแล้ว 45 ราย รอผลยืนยันอีก 119 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีหลากหลายอาชีพ ทั้งขับรถ จยย.รับจ้าง อาชีพรับจ้าง นักศึกษา และ พนักงานบริษัท โดยผู้ติดเชื้อที่สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนตื่นตระหนกมากที่สุดเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 73 เพศชาย อายุ 56 ปี ชาว อ.ทัพทัน มีอาชีพขี่รถจยย.รับจ้าง หลังสอบสวนไทม์ไลน์ปรากฎ
-วันที่ 25 มิ.ย. เดินทางด้วยรถจยย.ออกจาก ต.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ พื้นที่เสี่ยงสูง กลับบ้าน หมู่ 2 ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี อาศัยอยู่กับภรรยา พ่อตา และแม่ยาย ไปเดินตลาดนัดคลองถม ต.ทัพทัน
-วันที่ 26 มิ.ย. เพื่อนจาก จ.สมุทรปราการ (ผู้ป่วยยืนยัน จ.สมุทรปราการ 2 ราย ) ขับรถยนต์ส่วนตัวมาหาที่บ้านอ.ทัพทัน จ.อุทยธานี นอนพักค้างคืน 1 คืน ร่วมสังสรรค์กัน
-วันที่ 27 มิ.ย. เพื่อนเดินทางกลับจ.สมุทรปราการ ผู้ป่วยกับภรรยา พาพ่อตาไปส่งที่ร้านตัดผม พื้นที่หมู่ 1 ต.หนองยายดา อ.ทัพทัน จากนั้นไปซื้อของร้านชำแล้วกลับไปรับพ่อตา(ไม่ได้สวมแมส)
-วันที่ 28 มิ.ย. เช้าขี่รถจยย.ไปซื้อขนมจีนที่ตลาดสด อ.ทัพทัน โดยสวมแมสก์ตลอด แล้วขี่จยย.ไปบ้านเพื่อน ช่วงบ่ายพาภรรยาขี่รถจยย.ไปรับยาให้พ่อตา-แม่ยายที่ รพ.สต.โคกหม้อ โดยสวมแมสตลอด
-วันที่ 29 มิ.ย. อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ทราบข่าวเพื่อนจาก จ.สมุทรปราการ 2 ราย ติดเชื้อโควิด จึงแจ้ง ผญบ.ประสานสาธารณสุข รับไปกักตัวที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านเขาน้อย
-วันที่ 30 มิ.ย. เดินทางรถจยย.ไปตรวจหาเชื้อ ที่ รพ.ทัพทัน แล้วเดินทางกลับกักตัวต่อไม่ได้แวะไหน
-วันที่ 1 ก.ค. รพ.ทัพทัน แจ้งผลยืนยันตรวจพบเชื้อโควิด
-วันที่ 2 ก.ค. รถ รพ.ทัพทัน มารับไปเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ทัพทัน อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนโรครายนี้มีผู้เสี่ยงสูง 11 ราย เสี่ยงต่ำ 10 ราย อยู่ระหว่างกักตัวตรวจคัดกรอง
ขณะที่งานควบคุมโรคติดต่ออำเภอทัพทัน ประกาศแจ้งให้ประชาชนที่เดินทางไปตลาดคลองถมวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย. เวลา 15.00-16.0 น.และประชาชนที่ไปตลาดกัลยกร อ.ทัพทัน วันที่ 28 มิ.ย. เวลา 06.00-06.30 น.ไปรายงานตัวและแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่ออ.ทัพทัน และให้สังเกตอาการตัวเองหากมีไข้ ไอ เจ็บคอจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้ติดต่อสาธารณสุขโดยเร็ว ทำให้ประชาชนต่างหวาดผวากันเป็นอย่างยิ่งต่างตำหนิว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม บ้างก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายบ้างก็ให้ผู้นำชุมชนได้กวดขันและอย่าละเลย ผู้เข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวด.
