เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 5.2” โพสต์ภาพของเด็กชายรายหนึ่ง ต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังอาการเดินไม่ได้ และปัสสาวะไม่ออก โดยระบุว่า “ลงโทษหนักไปไหมกับเด็กวัยขนาดนี้ คนที่ลงโทษเด็กไม่ใช่ครู แต่เป็นผู้คุมหอพักชาย ซึ่งไม่ได้เรียนในสายอาชีพครู เด็กชายชั้น ป.3 เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ถูกผู้ดูแลลงโทษให้เด็กลุกนั่งเกิน 300 ที จนต้องเข้าโรงพยาบาลอาการสาหัส ทำให้เด็กเดินไม่ได้ ที่สำคัญคือทำให้ตับและไตทำงานไม่ปกติ ส่งผลให้ปัสสาวะไม่ออก เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กตัวแค่นี้ ถึงน้องจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหน ก็ไม่ควรทำถึงขนาดนี้ มันเกินไปไหม” ทำให้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกโซเซียลฯ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.รือเสาะ พบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี กำลังเฝ้าอาการบาดเจ็บ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ ลูกชายอย่างใกล้ชิดอยู่ข้างเตียง สอบถามเบื้องต้นเล่าว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ลูกชายกลับมาจากโรงเรียน สังเกตเห็นอาการผิดปกติ ไม่สามารถเดินได้ จึงสอบถามเล่าให้ฟังว่า โดนสั่งทำโทษให้ลุกนั่งหลายครั้ง จนกล้ามเนื้ออักเสบ ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เรื่องนี้รู้สึกว่ารับไม่ได้ จึงไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.เสกสรร เรืองฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรอผลแพทย์ ประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้กระทำต่อไป

ขณะที่พ่อเด็กผู้เสียหาย เปิดเผยว่า แพทย์ตรวจเลือดแล้วพบว่าค่าตับสูง ส่งผลต่อระบบปัสสาวะ ทำให้ลูกฉี่ไม่ออก ส่วนสาเหตุที่ถูกลงโทษ ทราบว่ามีเด็กไปเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ แต่ไม่มีใครรับผิด ผู้ดูแลหอพักจึงสั่งทำโทษเด็กทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นทางโรงเรียนได้แสดงความรับผิดชอบส่วนหนึ่ง ด้วยการย้ายลูกชายตนให้ไปอยู่ในห้องพิเศษ ส่วนคดีความคงต้องรอให้ลูกดีขึ้นเสียก่อน จึงจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ยืนยันว่าจะขอดำเนินการให้ถึงที่สุด

ขณะที่ นพ.ซัมซุดดีน หามะ ผอ.รพ.รือเสาะ กล่าวว่า เด็กมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อสลายตัว ส่งผลต่อตับ ขณะนี้ต้องเฝ้าดูอาการไปสักระยะหนึ่ง หากไม่ดีขึ้นก็อาจจะต้องปรึกษาทาง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อีกครั้ง ปัจจุบันค่าตับดีขึ้นเยอะพอสมควรแล้ว คาดว่าไม่น่าจะมีภาวะแทรกซ้อนอะไร ถ้ารักษาพ้นจากสภาวะวิกฤตินี้ได้ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเด็กจะมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่นั้น คงจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วน ผอ.โรงเรียนดังกล่าว กล่าวว่า ทั้งโรงเรียนมีเด็ก 760 คน แต่มีเพียง 168 คน อยู่หอพัก เรื่องที่เกิดขึ้นจะได้นัดพูดคุยกับผู้ปกครองอีกครั้ง และหลังเกิดเหตุได้รายงานให้ทางต้นสังกัดทราบแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากผู้ดูแลหอพักต้องการทำโทษคนที่เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้จนท่วมห้องน้ำ เพราะถือเป็นครั้งที่สองแล้ว เมื่อสอบถามไม่มีใครยอมรับ จึงสั่งทำโทษเด็กทั้งห้อง 21 คน โดยให้เด็กลุกนั่ง 500 ครั้ง ซึ่งเด็กยอมทำไปเรื่อย แต่น่าจะไม่ถึง 100 ครั้ง กระทั่งมีผู้ปกครองมารับกลับบ้านในวันที่ 20 ม.ค. และนำมาส่งในวันที่ 22 ม.ค. เท่าที่ทราบมีเด็กเพียงคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บจากเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางโรงเรียนไม่ทราบว่าเด็กมีโรคประจำตัวอยู่หรือไม่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนมีมาตรการดูแลแล้ว เพราะได้พูดคุยกับผู้ดูแลหอพักว่า จะต้องไม่ลงโทษเกินกว่าเหตุอีก และได้มีการพูดคุยเบื้องต้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะมีมาตรการในการลงโทษผู้ดูแลหอพัก เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีก.