เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่อาคารยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง (สะพานหิน) ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ภูเก็ต ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 3 เขตเลือกตั้งในภูเก็ต ได้แก่ เขต 1 นายกวี ตันสุคตานนท์ ภูเก็ต อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต เขต 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย ภูเก็ต อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต และเขต 3 น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวิชิต

นายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้นอกจากเป็นวันเปิดตัวผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ภูเก็ตทั้ง 3 เขตแล้ว ยังเป็นวันที่กฎหมายสำคัญในการเลือกตั้ง 2 ฉบับ คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร กับพ.รป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ได้มีผลบังคับใช้แล้ว แปลว่านับตั้งแต่วันนี้ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ ส่วนจะมีการเลือกตั้งในวันใดนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ เปลี่ยนจากการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวไปเป็นบัตร 2 ใบ เราให้เสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้นในการตัดสินใจเลือกส.ส. ให้สามารถเลือกคนกับพรรคแยกจากกันได้ เพราะถ้าคนไม่ชอบพรรค ก็เลือกคน แต่ถ้าไม่ชอบคน ก็เลือกพรรค หรือถ้าชอบทั้งคนและพรรค ก็เลือกทั้งพรรคทั้งคน

มีนักข่าวถามหลายครั้งว่ากลัวหรือไม่ที่มีหลายพรรคการเมืองมาแข่งในภาคใต้ รวมทั้งในภูเก็ต ซึ่งตนตอบไปว่ากลัวจะไม่มาแข่ง เพราะมีพรรคการเมืองมามากเท่าไหร่ เสียงก็ยิ่งแตก แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ตนมั่นใจว่าเรามีฐานเสียงและมีคนที่เชื่อมั่นศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับการเลือกตั้งส.ส.ครั้งที่ผ่านมา เฉพาะภูเก็ตมีแข่งกัน 10 กว่าพรรค แต่เที่ยวนี้ยังมาไม่ครบ 10 พรรค สำหรับผู้สมัคร ส.ส.ของเราทั้ง 3 เขต เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่มาตลอด รวมทั้งมีคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจเข้ามาทำงานให้กับประชาชน และได้พิสูจน์ฝีมือมีผลงานให้ชาวภูเก็ตเห็นมาแล้ว ตนจึงมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้ส.ส.ยกทีมในจ.ภูเก็ต

พรรคประชาธิปัตย์มีส.ส.ในภูเก็ตมาตลอดตั้งแต่ปี 2500 มีเพียงการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่เราไม่ได้ส.ส. เพราะโดนสึนามิทางการเมืองลูกใหญ่ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ประชาชนถูกบังคับแบ่งฝ่าย คือต้องเลือกว่า “เอาทักษิณ” กับ “ไม่เอาทักษิณ” ทำให้ชาวภูเก็ตไม่ได้เลือกส.ส. แต่ได้เลือก “ตู่” จนทำให้ได้เทวดามา 2 ตน ซึ่งล่าสุดกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หายตัวได้ แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการแข่งขันระหว่างสถาบันการเมือง และพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งพรรคเฉพาะกิจเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหนุนบุคคลคนเดียว ใช้คนคนเดียวเป็นเทพเจ้าแห่งความถูกต้อง สั่งการได้ทุกเรื่อง แต่หากวันใดหนึ่งคนคนนั้นเป็นอะไรไป พรรคดังกล่าวจะหายไปด้วย ดังนั้นถ้าเลือกพรรคเฉพาะกิจ ประชาชนจะได้อนาคตเฉพาะกิจ แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่นำพาอนาคตของประเทศได้ อยู่เคียงข้างประชาชนทุกช่วงเวลา ไม่เคยทอดทิ้งชาวภูเก็ต แม้ยามที่นักท่องเที่ยวสักคนเดียวไม่มาเที่ยว จ.ภูเก็ต ช่วงวิกฤติโควิด-19 เมื่อปี 63 แต่ตนและพรรคประชาธิปัตย์ยังยืนเคียงข้างและคอยต่อลมหายใจให้ชาวภูเก็ต

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เรามีนโยบายและวิสัยทัศน์สำคัญในการยกระดับภูเก็ตให้เป็นเมืองมหานครทันสมัย ด้วยระบบบริหารจัดการที่ผู้บริหารจะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเป็นเป้าหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ว่าวันนี้ต้องถือว่าเป็นการนับหนึ่งเดินหน้าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะรัฐธรรมนูญแก้ไขแล้ว กฎหมายลูกบังคับใช้แล้ว เพราะฉะนั้นจะเลือกตั้งวันไหนก็ได้ ทุกอย่างพร้อมแล้วตามกฎกติกา แต่การเลือกตั้งจะเกิดเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง จะเป็นเรื่องการอยู่ครบเทอม คือวันที่ 23 มี.ค. หรือจะเป็นเรื่องของการยุบสภา ถ้ายุบสภาก็จะต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรการเลือกตั้งก็ต้องมาถึง คงอีกไม่นาน

“สำหรับประชาธิปัตย์ก็เตรียมความพร้อมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล เรื่องนโยบาย วิสัยทัศน์ และระบบการบริหารจัดการ ถ้าได้มีโอกาสได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล ก็พาประเทศเดินหน้าไปสู่การสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ อย่างไรบ้าง และในปักษ์ใต้ ผมมั่นใจว่าเสียงตอบรับดีขึ้น การเลือกตั้งซ่อม 2-3 ครั้ง ที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ก็ได้รับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่สงขลา ชุมพร และในหลายจังหวัด เรามีความพร้อมทั้ง 14 จังหวัด เที่ยวหน้าภาคใต้มี 58 เสียง เรามั่นใจว่าเราจะได้มากกว่าเดิมเยอะเลย ภูเก็ตก็เป็นพื้นที่เป้าหมายหนึ่ง ที่เรามั่นใจว่าเที่ยวหน้าประชาธิปัตย์จะยกทีมภูเก็ตทั้ง 3 เขต”

เมื่อถามว่าจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ในสถานะนักการเมืองครั้งแรกในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จ.ชุมพร มีความกังวลหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ทุกพรรคมีสิทธิ์ตั้งความหวัง แม้เขาตั้งความหวังว่าจะได้ส.ส.ชุมพรยกทีม พรรคประชาธิปัตย์ก็มั่นใจว่าได้ส.ส.ที่ชุมพรแบบยกทีมเช่นกัน  อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นเรื่องการแข่งขัน แม้มีพรรคการเมืองพุ่งเป้ามายังภาคใต้นั้น ตนไม่กังวล และการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงเหนียวแน่นและมั่นคงในปักษ์ใต้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะมีการแบ่งเขตในเร็ววันนี้ มีความกังวลเรื่องความไม่เป็นธรรมหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกพรรคกังวล ถ้ากกต. ยึดหลักความถูกต้องตามกฎเกณฑ์กติกา แบ่งให้ยุติธรรมตามสิ่งที่ควรจะเป็น เพื่อให้ทุกอย่างก็จะเดินหน้าได้ และกกต.จะเป็นที่ยอมรับ

มีรายงานด้วยว่า นายเฉลิมชัย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก “เฉลิมชัย ศรีอ่อน –ปชป” ว่า “พร้อมลุย !!! เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดราชบุรี เขต 4 นายธนากร เลี้ยงฤทัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านโป่ง #เป็นคนมีอุดมการณ์  #ไม่ทรยศต่อพี่น้องชาวบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อย่างแน่นอน”

สำหรับนายธนากร ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ราชบุรี แทนนายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ปัจจุบันในเขตดังกล่าว ที่จะย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)