สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่า จากกรณีอิหร่านรายงาน การเกิดเหตุอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน โจมตีและสร้างความเสียหายให้กับโรงงานผลิตอาวุธแห่งหนึ่ง ในเมืองเอสฟาฮาน ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดเอสฟาฮาน ตั้งอยู่ทางตอนกลางของอิหร่าน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงหลายคน ในกระทรวงกลาโหมและกองทัพสหรัฐ ว่าอิสราเอล “มีความเกี่ยวข้อง” กับเหตุการณ์ดังกล่าว และยืนยันว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ว่าในทางใดก็ตาม


อย่างไรก็ตาม นายฮอสเซ็น อมิราบโดลลาเฮียน รมว.การต่างประเทศอิหร่าน ไม่ได้กล่าวพาดพิงประเทศหนึ่งประเทศใดอย่างเป็นทางการ โดยให้ความเห็นเพียงว่า “เป็นการโจมตีอย่างขี้ขลาด” เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงภายในของอิหร่าน พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเตหะราน “ซึ่งดำเนินการอย่างสันติ”


ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลยังคงสงวนท่าทีต่อเหตุการณ์ที่เมืองเอสฟาฮาน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กลับมารับตำแหน่งผู้นำอิสราเอล เมื่อปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และประกาศว่า “การดำเนินการทุกวิถีทาง” เพื่อป้องปรามไม่ให้อิหร่านได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์


อนึ่ง จังหวัดเอสฟาฮานเป็นสถานที่ตั้งโรงงานและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญหลายแห่งของอิหร่าน หนึ่งในนั้นคือโรงงานนาทานซ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม และรัฐบาลเตหะรานเคยกล่าวหา อิสราเอลอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบไฟฟ้าภายในโรงงาน เมื่อปี 2564.

เครดิตภาพ : REUTERS