เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อรายงานความคืบหน้าสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 หรือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” รอบใหม่ ภายหลังที่มีการเปิดให้ลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน-31 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 44.51 ล้านราย พร้อมให้ทำการเช็กสิทธิสำหรับคนที่ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ และให้มีการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

ล่าสุด มีการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน ซึ่งผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสิทธิของตนเอง และเช็กสิทธิได้ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

1.ช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th

  • เลือก “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน”
  • กรอกเลขประจำตัวประชาชน, วันเดือนปีเกิด
  • เลือก “ตรวจสอบข้อมูล”
  • รอประมวลผล

2.หน่วยรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่

  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
  • สำนักงานคลังจังหวัด
  • ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
  • ศาลาว่าการเมืองพัทยา

3.โทรศัพท์สอบถามได้ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง/สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

กระทรวงการคลัง Ministry of Finance
  • สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 09-4858-9794 (เวลาทำการ 08.30-16.30 น.)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3502, 3503, 3506, 3536, 3542, 3518 หรือโทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107 (เวลาทำการ 08.30-16.30 น.)
  • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 (เวลาทำการ 08.30-17.30 น.)

ซึ่งจะทราบผลตรวจสอบคุณสมบัติว่า ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน จากนั้นจะเริ่มขั้นตอนการยืนยันตัวตน และเข้าสู่กระบวนการยื่นอุทธรณ์ สำหรับกรณีผู้ที่ไม่ผ่าน

  • สำหรับ ผู้ลงทะเบียน ที่ผ่านคุณสมบัติตามโครงการ

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 จะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน ณ ธนาคาร ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธ.ก.ส. หรือ ธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ เป็นต้นไป จึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ อีกทั้ง ผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้เพื่อรับสิทธิสวัสดิการอื่นๆ ในอนาคต

ซึ่งหลังจากที่ ยืนยันตัวตน สำเร็จ ก็รอทาง กระทรวงการคลัง ประกาศเริ่มใช้สิทธิต่อไปได้เลย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดภายในเดือนมีนาคม 2566 นี้

  • สำหรับผู้ที่ ไม่ผ่าน การตรวจสอบคุณสมบัติ

กรณีไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา สามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์ได้อีกครั้ง ซึ่งทาง กระทรวงการคลัง จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15-30 วัน หากอุทธรณ์ผ่าน ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ย้อนหลังต่อไป ถ้าไม่ผ่านก็จะไม่ได้รับสิทธิ

  • สำหรับสิทธิประโยชน์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่

ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 300 บาท

ผู้ที่มีรายได้ 30,000-100,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 200 บาท

ทั้ง 2 เกณฑ์จะได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกเดือนละ 500 บาท เงินชดเชยค่าไฟฟ้า (มีเงื่อนไข) ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา (มีเงื่อนไข) ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงินเพิ่มเบี้ยสำหรับผู้พิการอีก 200 บาทต่อเดือน..