จากกรณี เฮียเอ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี มหาเศรษฐี เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ถูกลูกชาย-สะใภ้ พร้อมพวก กักขังกรอกยาสลบหมูนานกว่า 2 ปี จัดฉากให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ก่อนยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนแม่ โอนถ่ายทรัพย์สินกว่า 65 ล้านบาท เมียผูกคอดับคาห้องหลังถูกจับแยกห้อง เชื่อโดนจัดฉากฆาตกรรม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 13 ก.พ. 66 ทีมข่าวได้เดินทางมาพบกับ เฮียเอ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ ตนก็ไม่คาดคิดว่าเหมือนกันว่าลูกชายแท้ จะทำกับพ่อแม่แบบนี้ เพราะปกติตนเองเคยเห็นแต่ในทีวีหรือในละคร แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัว แล้วคิดว่าชีวิตจริงจะเป็นแบบนี้ โดยตนเองและภรรยาได้ถูกลูกชายรวมหัวกับลูกสะใภ้ ลักพาตัวออกจากบ้านไปกักขังเอาไว้ที่บ้านของพ่อตาแม่ยายของสะใภ้ ซึ่งขังเอาไว้ตั้งแต่ปี 2563-2565

โดยตลอดที่ถูกขังอยู่ ช่วงปี 2563 ถึงก่อนปี 2565 ตัวของลูกชายและลูกสะใภ้ รวมทั้งพ่อตาแม่ยาย จะมีการเอายาบางอย่างมาให้กิน ซึ่งเป็นลักษณะน้ำสีชมพู เป็นยาเหลว ใส่ในไซรินจ์ 200 ซีวี บีบบังคับให้ตนเองและเมียกิน หลังจากที่กินไปแล้ว จะอยู่ในอาการสะลึมสะลือ ประกอบกับมือและขาตก ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ลักษณะอ่อนเพลียไปทั้งตัว บางทีหลับไป 2-3 วัน และหลังจากตื่นขึ้นมาจะพูดสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง คล้ายกับคนเป็นใบ้ พูดไม่มีเสียง และหลายครั้งที่ถูกบีบบังคับให้กิน มีการฉีดใส่ปาก แต่รู้ทันไม่ยอมกิน ก็จะถูกใช้คีมบีบปากให้กิน บางครั้งตัวของแม่ยายก็จะเอาไฟฟ้าช็อต หรือตัวของลูกสะใภ้ก็จะใช้ไม้เบสบอลทุบตีเพื่อให้ตนเองและภรรยายอมกิน โดยตัวยาดังกล่าวหลังจากที่กินแล้วก็จะทำให้ไร้สมรรถภาพ เสมือนเป็นคนที่ไม่มีสติ หรือกลายเป็นคนบ้าหรือคนที่ไร้สติไปเลย

ชีวิตยิ่งกว่าละคร! ลูกชายรวมหัวสะใภ้วางยาพ่อมหาเศรษฐี-จัดฉากฆ่าแม่ ฮุบสมบัติ65ล้าน

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนพร้อมที่จะให้อภัยลูกชาย หากลูกชายกลับมายอมร่วมมือกับตน ส่วนทางลูกสะใภ้ พ่อตาแม่ยาย นั้น ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในส่วนเรื่องทรัพย์สินนั้น ตนก็ทำใจอยู่บ้างว่า อาจจะไม่ได้คืน เนื่องจากตนคิดว่า ลูกชาย และภรรยาคงใช้เงินไปหมดแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เรื่องนี้ความยากเพราะเป็นเรื่องของครอบครัวและเกิดขึ้นในปี 63 ซึ่งต้องใช้ในหลักฐานวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ ส่วนกรณีการเสียชีวิตของภรรยาเสี่ยเอ ตอนนั้นมีการเคลื่อนย้ายขณะที่ตำรวจลงพื้นที่ และมีการเก็บหลักฐาน แต่ตอนนั้นยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้การฆาตกรรม ต้องไปดูจุดที่ผูกคอว่ามีความเป็นไปได้ขนาดไหน ส่วนภายในกระเพาะของผู้เสียชีวิตพบสารตกค้าง เป็นสารจำพวกในยารักษาโรคซึมเศร้าและกาเฟอีน ซึ่งเสี่ยเอ เคยมาแจ้งความแล้ว 2 ครั้ง แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ ส่วนวันนี้จะมีการสอบสวนเสี่ยเอ เพิ่มเติม เพื่อชี้จุดสถานที่ที่อ้างว่าเกิดเหตุหลักๆ 3 จุด คือ บ้านเสี่ยเอ และอีก 2 จุด คือ บ้านของพ่อตา และแม่ยาย ในพื้นที่ อ.เมือง ซึ่งต้องขอศาลออกหมายค้น จุดใหญ่คือ ร้านขายเครื่องไฟฟ้าของพ่อและแม่ยาย ซึ่งหลังบ้านคือสถานที่ที่เสี่ยหมูระบุว่า เป็นจุดที่ถูกกักขัง หลักๆ เสี่ยเอ แจ้งความ 6 คน   

ส่วนกรณีที่ระบุว่า ลูกชายและลูกสะใภ้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว เบื้องต้นตรวจสอบรู้แล้วว่าอยู่ไหน มีทั้งอยู่ไทยและต่างประเทศ แต่อาจจะออกไปท่องเที่ยวก็ได้ และที่คนระบุว่าเสี่ยเอมีอาการจิตเวช บอกว่าเป็นการวิเคราะห์ภายหลังการเกิดเหตุในการถูกกักขัง