เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 66 ตามที่มีกระแสข่าวถึงการเตรียมกลับมาเปิดดำเนินการของเหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในช่วงนี้นั้น นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ยกเครื่องซ่อมแซมเครื่องจักรและโรงประกอบโลหกรรมที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง และได้ยื่นหนังสือแจ้งหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลทราบเพื่อเข้ามาตรวจสอบว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดครบถ้วนแล้ว เมื่อบริษัทฯ ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงจะสามารถเริ่มดําเนินการทําเหมืองได้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ปฏิบัติทุกอย่างตามกฎหมาย และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 66 ศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษา ให้ยกฟ้องคดีที่ผู้ประท้วงได้ฟ้องร้องต่อศาลโดยกล่าวหาว่าการออกประทานบัตร 5 แปลงในเขตจ.พิจิตร นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยประการต่าง ๆ โดยศาลได้ชี้ว่า บริษัทฯ ได้รับความเห็นชอบหรือได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ตามขั้นตอนและโดยชอบด้วยกฎหมายทั้งสิ้น รวมถึงประเด็นการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA และ EHIA) ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น จึงขอยืนยันอีกครั้งว่า การดำเนินงานของบริษัทฯ มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทราบดีและให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา

สำหรับกระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่นั้น นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า พี่น้องในชุมชนที่ต้องจากบ้านเกิดไปหางานทำที่อื่น ได้ทยอยเดินทางกลับมาในพื้นที่ ส่วนหนึ่งจะกลับมาเป็นพนักงานของเหมือง ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้ประกาศเรื่องการรับสมัครพนักงานจำนวนกว่า 160 อัตรา เมื่อเดือน พ.ย. 65 ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีผู้สนใจส่งใบสมัครมากว่า 1,700 คน เกินกว่าอัตราที่เราจะรับไว้มาก โดยแผนการดำเนินงานระยะแรกนั้นจะใช้โรงประกอบโลหกรรมที่ 2 เพียงโรงเดียว ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.7 ล้านตันต่อปี และภายหลังที่บริษัทฯ กลับมาดำเนินการไปแล้วสักระยะหนึ่ง จึงจะเริ่มซ่อมโรงประกอบโลหกรรมที่ 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.3 ล้านตันต่อปี จากนั้นจึงจะรับพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณงานที่มากขึ้นต่อไป สำหรับการคัดเลือกพนักงานนั้น บริษัทฯพิจารณาผู้ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่เป็นอันดับแรก ในขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งก็เตรียมหาลู่ทางทำธุรกิจที่จะมารองรับเศรษฐกิจที่จะคึกคักขึ้นหลังจากที่เหมืองกลับมาเปิดอีกครั้ง ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง แม้บริษัทฯ ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ แต่การจับจ่ายใช้สอยของพนักงานและผู้รับเหมาของบริษัทฯ ที่มาซ่อมแซมโรงงานและเครื่องจักรในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนอย่างชัดเจน

สำหรับความคืบหน้าของกระบวนการอนุญาโตตุลาการ นายเชิดศักดิ์ย้ำว่ายังไม่เสร็จสิ้น แต่ยืนยันว่าการเจรจาไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แต่เป็นการเจรจาตามสิทธิที่บริษัทฯ และประเทศไทยควรได้ตามกฎหมาย โดยยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง บริษัทฯ มั่นใจว่าเหมืองแร่ทองคำชาตรีจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและก่อให้เกิดผลทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจออกไปอีกหลายชั้น ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ซึ่งจากข้อมูลสถิติในอดีตพบว่า บริษัทฯ ได้ป้อนเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วกว่า 39,000 ล้านบาท ผ่านการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจในประเทศ การชำระค่าภาคหลวงและภาษี และการจ้างงาน โดยธุรกิจของบริษัทฯ ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี