สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงทบิลีซี ประเทศจอร์เจีย เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่า พรรค “จอร์เจียน ดรีม” ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลของจอร์เจีย ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดี ถอนร่างกฎหมายองค์กรต่างชาติ หรือ กฎหมายสายลับต่างชาติ ออกจากการพิจารณาของสภาแห่งชาติ หลังที่ประชุมมีมติผ่านวาระแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “เพื่อลดการเผชิญหน้าในสังคม” จากการประท้วงซึ่งเกิดขึ้นภายในเวลาไม่นาน หลังการผ่านมติของสภา

ตำรวจควบคุมฝูงชนตรึงกำลังท่ามกลางควันจากแก๊สน้ำตา ระหว่างเผชิญหน้ากับมวลชน ในกรุงทบิลีซี


ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวหากมีผลบังคับใช้จริง จะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า กฎหมายองค์กรต่างชาติ หรือ กฎหมายสายลับต่างชาติ มีสาระสำคัญเป็นการระบุให้องค์กรและหน่วยงานแห่งใดก็ตาม ซึ่งได้รับความสนับสนุนทางการเงินจากต่างประเทศ เป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ต้องขึ้นทะเบียนเป็น “องค์กรต่างชาติ” มิเช่นนั้น ต้องระวางโทษปรับสถานหนัก

ผู้ประท้วงคนหนึ่ง นำธงสหภาพยุโรป (อียู) มาคลุมตัว ระหว่างร่วมเดินขบวนต่อต้านร่างกฎหมายของรัฐบาลจอร์เจีย ในกรุงทบิลีซี


อย่างไรก็ตาม ประะธานาธิบดี ซาโลเม ซูราบิชวิลี มีจุดยืนแตกต่างจากพรรคจอร์เจียน ดรีม ซึ่งนิยมรัสเซีย โดยเธอกล่าวว่า หากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้จริง จะเป็นการบั่นทอนโอกาสของจอร์เจีย ในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) พร้อมทั้งเตือนว่า เธออาจใช้อำนาจยับยั้งกฎหมายนี้


ด้านฝ่ายค้านของจอร์เจียวิจารณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับกฎหมายของรัสเซีย ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2555 และมีการยกระดับความเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น “การคุกคามสื่อและฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง” แต่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอิรักลี การิบาชวิลี ยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของการเสนอร่างกฎหมายนี้คือ “เพื่อรักษาสมดุลทางนโยบาย”.

เครดิตภาพ : REUTERS