ขยับตัวทำอะไรก็เป็นที่ถูกจับตามองตลอด สำหรับนักร้องสาวขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 อมิตา ทาทา ยัง ที่ก่อนหน้านี้ ทำเอาหลายคนกำลังสงสัยความสัมพันธ์กับหนุ่มคนสนิท บุ๊ค สิคพัชศ์ ว่าทั้งคู่นั้นเป็นอะไรกัน ล่าสุดทาทาออกมาเปิดใจครั้งแรก ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม เผยสถานะชัดเจน พร้อมเคลียร์ดราม่าทั้งหมด

ทาทา เผยว่า “เรื่องโพสต์ดราม่าไม่มีอะไร คือเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว เรานอนน้อยมาก อาทิตย์หนึ่งเรานอน 18 ชั่วโมง ซึ่งไม่มีอะไรเลย เราแค่อ่านสคริปต์และไม่รู้จะเขียนอะไร ก็เลยเขียนตามนั้น คือตลกอยู่เนาะ เขียนอะไรก็เป็นดราม่าไปหมด จริงๆ หนูเป็นคนอารมณ์ดีมากนะ เวลาเจออะไรหนักๆ เรารู้สึกว่าเรารับมือกับตรงนั้นได้มากขึ้น และอะไรที่ไม่จำเป็น เราก็สามารถปล่อยวางได้ สิ่งอะไรที่เข้ามาในชีวิต หรือเข้ามาในหัวของเรา เราต้องปล่อยวาง เพื่อนเราเยอะแล้ว คนก็รู้จักเยอะแล้ว เราก็อยากไม่รู้จักใครอีก เพราะมันก็ไม่มีประโยชน์กับเรา รู้สึกว่าโตแล้ว และก็ชีวิตมันสั้น เราควรจะมีความสุขกับวันในเวลาที่เรามีเหลืออยู่ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม อาชีพดีเจเป็นอีกหนึ่งความสุขของทามากๆ เลยค่ะ มีความสุขมากๆ จริงๆ คือต้องบอกก่อนว่าช่วงโควิด เราก็ไม่ได้มีสนามเด็กเล่นหรือมีที่สถานที่ให้เป็นที่ระบาย สามปีที่ผ่านมา ไม่มีคอนเสิร์ต แทบจะไม่มีที่ปล่อยของ จนตอนนี้มาเจอการเป็นดีเจ แทบจะยึดเป็นอาชีพของตัวเอง”

“ตอนนี้ก็มีการเสนอชื่อไปต่างประเทศอยู่ในงาน ก็มีการคุยกันอยู่ ซึ่งถ้ามีการตอบรับในตรงนั้นก็น่าจะดี และอาจจะเป็นการโกอินเตอร์อีกครั้งหนึ่ง เพราะเราก็เอ็นจอยในการเป็นดีเจมาก ซึ่งเราก็โอเคอยู่ในวงการบันเทิงในเรื่องของเสียงเพลง ซึ่งถ้าเราร้องเพลงไม่ได้ เราก็ไปเปิดเพลงเอา ถือว่าเป็นการท้าทายอีกอย่างหนึ่งได้ เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ ซึ่งเราก็พูดได้บิวต์คนได้ ตอนนี้ก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะ ซึ่งเราส่วนใหญ่จะเล่นงานปิด ไม่ได้เป็นงานเปิดมาก และเราไปเล่นไหนที่ สามารถติดตามได้ใน Instagram”

ทาทา เล่าอีกว่า “เรื่องรักใหม่ ผู้ชายที่อยู่ในคลิปเป็นเพื่อนที่สนิทมากๆ ในตอนนี้ ต้องอธิบายก่อนว่า รูปนี้ด้วยความที่บุ๊คเป็นคนที่มีเอนเนอร์จี้ดี อยู่ด้วยแล้วเรากลายเป็นคนที่สบายใจ ส่วนข่าวลือที่บอกว่า เราเปิดตัวรักใหม่อย่าเพิ่งคิดไปไกล คือต้องบอกว่าอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ และชีวิตมันสั้น ถ้าเราอยู่ด้วยแล้วโอเค มันก็ดี ซึ่งเราก็จะพามารู้จักได้อยู่แล้ว เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แล้วเค้าเป็นคนดี คบได้ค่ะ และเขาสามารถรักษาความรู้สึกเราได้ แล้วเราต้องการคนที่เข้ามาสร้างความสุขให้กับเราได้ โดยไม่ต้องกำหนดว่าอยู่ในสถานภาพใดๆ ซึ่งเรายังไม่ได้คาดหวังอะไรเลยกับเพื่อนคนนี้ วันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน คาดหวังอย่างเดียวว่า เราต้องส่งลูกเรียนให้จบก่อน นั่นคือที่สุด”